เมื่อวันที่ 28 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย จ.ระยอง ร่วมกับสำนักงานเกษตร จ.ระยอง กรมส่งเสริมการเกษตร ได้จัดเวทีเสวนาสร้างความร่วมมือการรับรู้ และเตรียมความพร้อมการส่งออกทุเรียน จ.ระยอง ปี 2568 ที่ห้องประชุมโรงเรียนมกุฎเมืองราชวิทยาลัย อ.แกลง จ.ระยอง โดยมีเกษตรชาวสวนทุเรียนใน อ.แกลง อ.วังจันทร์ และ อ. เขาชะเมา เข้าร่วมเวทีเสวนาฯ โดยมี น.ส.วรนุช สีแดง เกษตร จ.ระยอง นายวสันต์ รื่นรมย์ นายกสมาคมชาวสวนทุเรียนไทย จ.ระยอง นายนพดล แดงพวง ผอ. ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรระยอง นายพิทวัฒน์ อ่อนทองหล่ง ผอ. สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 และผู้แทนด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง มาบรรยาย และร่วมเวทีเสวนาความร่วมมือฯ โดยมีหัวข้อที่สำคัญ อาทิ ตลาดผลไม้ส่งออก และแนวทางการเก็บรักษาด้วยความเย็น การเตรียมความพร้อม การควบคุมคุณภาพทุเรียน เพื่อการส่งออกทุเรียนระยอง แนวทางปฏิบัติ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนแคดเมียม และสาร BY 2 ในทุเรียนส่งออก และข้อปฏิบัติการใช้สารเคมี ก่อนและหลังการเก็บเกี่ยวสำหรับเกษตรกรชาวสวนทุเรียน รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นมุมมองของผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน และผลกระทบจากจาการปนเปื้อนสาร และการป้องกันการปนเปื้อนสารของทุเรียนจากสวนถึง..ล้ง เป็นต้น ซึ่งการเสวนาดังกล่าวยังมีนายโชติชัย บัวดิษ สมาชิกวุฒิสภา จ.ระยอง มารับทราบปัญหาของเกษตรกรชาวสวนทุเรียน เพื่อผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางช่วยเหลือต่อไปด้วย
นายวสันต์ รื่นรมย์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย จ.ระยอง เปิดเผยว่า การเสวนาดังกล่าว สืบเนื่องจากมีการพบสารปนเปื้อนในทุเรียน ทั้งแคดเมียม และ BY 2 ซึ่งส่งกระทบต่อการส่งออกทุเรียนเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกร ให้เข้าใจขั้นตอนปฏิบัติในสวนทั้งปฏิบัติตาม GAP และปัจจัยการผลิตตเองให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะปัจจุบันพบว่าทุเรียนที่ทางภาคใต้เจอคราบเชื้อราเกาะที่ลูก ทำให้ผู้ประกอบการเองไม่กล้ารับซื้อ ซึ่งหากชาวสวนทุเรียนในภาคตะวันออกยังไม่ตื่นรู้ ไม่ปรับตัว หรือกระตือรือร้น ก็อาจจะเจอปัญหาขึ้นมาได้ ดังนั้นการบริหารจัดการจะให้ทางผู้ประกอบการรับผิดชอบเพียงผู้เดียวไม่ได้ เกษตรกรต้องรับรู้ และร่วมมือกันทุกภาคส่วน ซึ่งงานในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา มาร่วมรับฟังปัญหา เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป.
แสดงความคิดเห็น