เมื่อวันที่ (๑ มีนาคม ๒๕๖๘) เวลา ๑๓.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พลอากาศตรี สุพิชัยสุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการพิธีสมโภชเจดีย์ไตรรัตนวชิรสิรยารักษ์ วัดป่าอนุตตโร อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู
โอกาสนี้ นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วย นายวริทธิ์ จิตรเพียรค้า
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหนองบัวลำภู พลตรี พุทธิวัฒน์ สิริพงศ์พล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๘ พลตำรวจตรี ไกรสมุทร ทาโบราณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู รอรับผู้แทนพระองค์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองบัวลำภู มอบพวงมาลัย
จากนั้นผู้แทนพระองค์ เข้าสู่ศาลาการเปรียญ จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระสงฆ์ ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวรายงานความเป็นมาการก่อสร้าง “เจดีย์ไตรรัตนวชิรสิริยารักษ์” เสร็จเรียบร้อยผู้แทนพระองค์ ออกจากศาลาการเปรียญ เพื่อกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย “เจดีย์ไตรรัตนวชิรสิรยารักษ์”
พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ ผู้แทนพระองค์ เข้าในเจดีย์ไตรรัตนวชิรสิริยารักษ์ วางพวงมาลัย ออกจากเจดีย์ไตรรัตนวชิรสิริยารักษ์ เข้าศาลาการเปรียญ เพื่อประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ กรวดน้ำ พระสงฆ์อนุโมทนา ถวายอดิเรก
จากนั้น ผู้แทนพระองค์กราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบลาพระสงฆ์ รับมอบของที่ระลึกจากพระอธิการสุรวุฒิ เขมจิตโต เจ้าอาวาสวัดป่าอนุตตโร เสร็จแล้วออกจากศาลาการเปรียญ ขึ้นรถยนต์ประเทียบ ออกจากวัดป่าอนุตตโร ไปยังท่าอากาศยานกองบิน ๒๓ จังหวัดอุดรธานี“เจดีย์ไตรรัตนวชิรสิริยารักษ์” มีความเป็นมาสืบเนื่องจาก พระอธิการสุรวุฒิ เขมจิตโต ได้มีโอกาสเดินทางไปกราบสักการะพระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ ที่ประเทศอินโดนีเซียและได้รับประทานถวายพระบรมสารีริกธาตุ จากพระมหาเถระประเทศศรีลังกา จึงมีดำริที่จะสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและสิ่ง อันเป็นมงคลของพระศาสนาไว้เพื่อให้เป็นสมบัติวัตถุของพระศาสนาและเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนสืบต่อไป
เจดีย์นี้เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๖๖ จนถึง วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ รวม ๑๘ เดือน จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์
เจดีย์ดังกล่าวเป็นเจดีย์ที่ทำด้วยหินภูเขาไฟ (หินลาวา) จากประเทศอินโดนีเซีย โครงสร้างรากฐานเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก องค์เจดีย์ กำแพงแก้ว และพื้นรอบนอกทั้งหมด เป็นหินภูเขาไฟ เป็นรูปแบบศิลปะโบราณ องค์เจดีย์ขนาดกว้าง ๑๐ x ๑๐ เมตร สูง ๑๘ เมตร แบ่งเป็น ๒ ชั้น ห้องชั้นบนกว้าง ๕ x ๕ เมตร ภายในประดิษฐานสิ่งอันเป็นมงคลเพื่อบูชาพระรัตนตรัย ห้องชั้นล่างขนาด ๘ x ๘ เมตร มีภาพหินแกะสลักพุทธประวัติ เป็นศิลปะโบราณทำจากหินภูเขาไฟและรอบนอกล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว รอบเจดีย์ขนาด ๑๖ x ๑๖ เมตรภายในเจดีย์มีพระประธานแกะสลักจากหินภูเขาไฟ ปางขัดสมาธิเพชรปิดองค์พระด้วยทองคำ ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศไทยและประเทศศรีลังกา และมีพระพุทธปฏิมาปางขัดสมาธิ ขนาด 8 นิ้ว ชุบด้วยทองคำ จำนวน ๓๐๐ องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในองค์พระเจดีย์ มีแผ่นพระไตรปิฎกชุบด้วยทองคำ จำนวน ๑๐๐ แผ่น จารึกพระธรรมคำสอนที่สำคัญๆ ไว้ เป็นตัวหนังสืออักษรภาษาไทย มีรูปเหมือนพ่อแม่ครูบาอาจารย์กัมมัฏฐานชุบด้วยทองคำ จำนวน ๓๐ องค์ อาทิ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ขาว หลวงปู่แหวน หลวงตามหาบัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา พระอธิการสุรวุฒิ เขมจิตโต และคณะศิษยานุศิษย์ จึงขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเจดีย์และอานิสงส์ของการสร้างเจดีย์นี้ น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามเจดีย์ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ว่า“พระบรมธาตุเจดีย์ไตรรัตนวชิรสิรยารักษ์” หมายความว่า เจดีย์เป็นที่รักษาพระบรมสารีริกธาตุและสิ่งอันเป็นสิริมงคลไว้ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อบูชาพระรัตนตรัย.
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ หนองบัวลำภู
แสดงความคิดเห็น