โศกนาฏกรรมจากความเครียด
ตำรวจหนุ่มก่อเหตุรุนแรง ก่อนมอบตัวสู่กระบวนการยุติธรรม
เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 25 มีนาคม 2568 เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้นในพื้นที่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีเมื่อ ดาบตำรวจ กิตติศักดิ์ เดชชูอายุ 37 ปี สังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ก่อเหตุทำร้าย ร.ต.ต.พาสกร ภาชูระเบียบนารอง สวป.สภ.สัตหีบ ขณะเข้าระงับเหตุกรณีบุกรุกบ้าน ก่อนแย่งชิงอาวุธปืนประจำตัวแล้วหลบหนี
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 105/51 หมู่ 4 ตำบลสัตหีบ เมื่อ นางสาวอนงค์ลักษณ์ ภูรับ อายุ 28 ปี ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูกอดีตแฟนหนุ่ม ด.ต.กิตติศักดิ์ตามมาราวีและพยายามบุกเข้ามาในบ้าน ด้วยความโกรธแค้น เขาทุบกระจกประตูบ้านจนแตก หวังจะเข้าไปทำร้ายร่างกาย
ร.ต.ต.พาสกร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำตู้ยามบ้านเตาถ่าน ได้เข้ามาระงับเหตุ แต่กลับถูก ด.ต.กิตติศักดิ์ ใช้กำลังเข้าทำร้ายอย่างหนัก ถึงขั้นแย่งชิงอาวุธปืนขนาด 9 มม. ประจำตัวไป ก่อนจะขับรถหลบหนีไปในความมืด
จากความเครียดสู่การมอบตัว: จุดจบของการหลบหนี
ตลอดช่วงเวลาหลังเกิดเหตุ มีรายงานว่า ด.ต.กิตติศักดิ์ขับรถไปยังบริเวณ หลังตลาด 700 ไร่ซึ่งเป็นพื้นที่เปลี่ยว เขานั่งอยู่ในรถเป็นเวลานาน ท่ามกลางความเครียดสะสม ก่อนจะจุดไฟเผาหลักฐานบางส่วน เมื่อความกดดันถาโถมและไม่มีทางออก สุดท้าย เวลา 06.00 น. ของวันเดียวกัน เขาตัดสินใจเข้ามอบตัวที่ สภ.สัตหีบ พร้อมส่งมอบอาวุธปืนคืนแก่เจ้าหน้าที่
บทเรียนและแนวทางแก้ไขเมื่อความเครียดในหน้าที่ นำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด
พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.สัตหีบ ได้สั่งการให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และเตรียมเสนอให้มีการสอบสวนทางวินัยอย่างถึงที่สุด เนื่องจากการกระทำครั้งนี้ถือเป็น คดีอุกฉกรรจ์ไม่เพียงแต่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังมีการแย่งชิงอาวุธปืน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อ
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้สะท้อนถึงปัญหาที่มักถูกมองข้ามในแวดวงเจ้าหน้าที่รัฐ นั่นคือ แรงกดดันจากงานและภาวะทางอารมณ์ตำรวจหลายคนต้องเผชิญกับภาระหน้าที่หนักหน่วง มีความเครียดสะสมจากการทำงาน จนบางครั้งนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด จึงเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรตำรวจควรมีระบบดูแลสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่ ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมด้านการจัดการความเครียดและ
อาการของผู้บาดเจ็บ ฟื้นตัวได้ดี
ส่วน ร.ต.ต.พาสกร ภาชูระเบียบนา ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย แพทย์รายงานว่า อาการปลอดภัยแล้วและกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้น
เหตุการณ์ครั้งนี้แม้จะเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่ก็เป็นโอกาสให้สังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิต โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ปฏิบัติงานภายใต้ความกดดันสูงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีกในอนาคต
แสดงความคิดเห็น