นนทบุรี วินจยย.สุดทน! ร้องดร.แก้ว ถูกวินจยย.กร่างไม่พอใจวินจยย.ซอยเดียวกันรับผู้โดยสารตัดหน้า ดักทำร้ายตาปูด-คิ้วแตก ต่อหน้าผู้โดยสาร
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 68 ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายสุวรรณ อายุ 48 ปี อาชีพวินจยย.รับจ้าง เบอร์ 132 (ผู้เสียหาย) ว่าถูกวินจยย. เบอร์ 199 ปากซอยเรวดี 4 ทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อยเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บมีร่องรอยฟกช้ำที่ดวงตาข้างขวา และบริเวณเหนือคิ้วแตก เย็บกว่า 3 เข็ม คาดว่าถูกแหวนที่นิ้วมือของคู่กรณี เหตุเกิดจากการรับ-ส่งผู้โดยสารภายในซอยเรวดี ทำให้มีปัญหากัน ซึ่งคู่กรณีไม่พอใจที่ผู้เสียหายรับผู้โดยสารตัดหน้า จึงขับขี่รถจยย.ตามมาทำร้าย เหตุเกิดบริเวณปากซอยเรวดี 63 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
นายสุวรรณ วินจยย.รับจ้าง (ผู้เสียหาย) กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนขับขี่รถจยย.ผ่านซอยเรวดี 4 เห็นวินจยย.อีกคันซ้อนผู้โดยสารออกมา ซึ่งในซอยนั้นมีผู้โดยสารอยู่ประมาณ 2 คน ตนตั้งใจจะจอดรับ แต่วินจยย.เบอร์ 225 ไล่ตนออกมา หลังจากนั้นตอนสายๆคาดว่าวินจยย.คันดังกล่าวน่าจะไปฟ้องวินจยย.เบอร์ 199 ตนจึงโดนเตือนว่าอย่ามาปาดหน้า อย่ามาจอดรับผู้โดยสารในซอยนี้ ซึ่งวินจยย.เบอร์ 199 เป็นคนขับวินทั่วไปเช่นกัน เพียงแค่อาจจะมีสิทธิใหญ่ในตรงนั้น ซึ่งหลังจากวันนั้นตนได้มารับผู้โดยสารที่ซอยเรวดี 7 และขับขี่รถจยย.สวนทางกันกับคู่กรณี พอสายๆตนรับผู้โดยสารจากวินตนเองผ่านไปถึงซอยเรวดี 63 วินจยย.เบอร์ 199 ได้ขับขี่รถจยย.ตามหลังและบอกให้ตนจอดรถ โดยบอกว่าผู้โดยสารไม่เกี่ยว หลังจากนั้นก็ทำร้ายร่างกายตน ด้วยการชกต่อย 1 ครั้ง เข้าที่ใบหน้า และหลบหนีไป เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. ตนมีความกังวลใจต่อคู่กรณีกลัวจะมาทำร้ายอีกทำให้ไม่กล้าแจ้งความ ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วกับวินคนอื่นๆ แต่วันนี้ตั้งใจมาแจ้งความแล้ว เพราะรู้ว่าดร.แก้ว สามารถช่วยตนได้ อยากให้ช่วยจัดการปัญหาให้ รู้สึกการกระทำมันโหดร้ายมากเกินไป ทุกวันนี้ไม่มีใครกล้ายุ่งกับวินจยย.ปากซอยเรวดี 4 เลย แต่ตนมั่นใจในตัวดร.แก้ว ว่าจะสามารถช่วยตนได้
นางภรพิภา อายุ 58 ปี อาชีพวินจยย.รับจ้าง (หนึ่งในผู้เสียหาย) กล่าวว่า ตนเจอเหตุการณ์ ขับขี่รถจยย.ไปรับผู้โดยสารซึ่งเลยจากวินของคู่กรณีเพื่อไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า จากนั้นคู่กรณีได้ขับขี่รถจยย.ตามมา ซึ่งตนมีผู้โดยสารอยู่ด้วย พอตนเปิดหมวกกันน็อกคู่กรณีเห็นเป็นผู้หญิงจึงไม่ได้ทำร้าย แต่คาดว่าหากเป็นผู้ชายคงโดนทำร้ายไปแล้ว คู่กรณีมีการด่าทอและต่อว่าตนว่า “มึงมารับผู้โดยสารได้ยังไง เขามีคิวในวินอยู่” แต่เหตุผลที่ตนไปรับเพราะผู้โดยสารเพราะเห็นเขายืนเรียกนานแล้ว ไม่มีใครไปรับ และผู้โดยสารก็รีบไปทำงาน ขากลับพอขับขี่รถจยย.ผ่าน คู่กรณีก็ชี้หน้าแล้วต่อว่าตนไปแย่งลูกค้า ซึ่งตนไม่เคยไปมีปัญหาอะไรกับใคร ที่ผ่านมาตนรู้สึกกลัว และก็ไม่กล้ามาแจ้งความด้วย อยากให้มีคนเข้ามาดูแลเพื่อความปลอดภัย ตนอยากให้ดร.แก้ว เข้ามาดูแล ใช้กฎหมายควบคุมไม่ให้คู่กรณีมากร่างในวิน วันนี้ตนเข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม และรู้สึกปลอดภัยขึ้น เนื่องจากมีดร.แก้ว เข้ามาช่วยเหลือ
พ.ต.ต.ไพรัตน์ นวนตะคุ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า ตนเพิ่งได้ทราบเรื่องจากผู้เสียหายเกี่ยวกับเหตุการณ์วินจยย.ผู้มีอิทธิพลในซอยเรวดี เบื้องต้นได้มีการรับแจ้งความและสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด หลังจากนี้จะดำเนินการส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่รพ. เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ เพื่อประกอบสำนวนในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ดร.ปรเมศร์ หรือ ดร.แก้ว กล่าวว่า ผู้เสียหายมีอาชีพขับขี่วินจยย. อยู่ในซอยเรวดี มีความรู้สึกหวาดกลัว เพราะถูกทำร้ายชกต่อยจนได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่กล้าเข้ามาแจ้งความ ซึ่งได้มีพลเมืองดีติดต่อเข้ามาหาตนให้ช่วยเหลือ ตนจึงแนะนำให้เดินทางเข้ามาแจ้งความ และจะช่วยดูแลความปลอดภัยในการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด ตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากไม่มีเจ้าทุกข์เดินทางมาแจ้งความ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าในจังหวัดนนทบุรีมันต้องไม่มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ของสภ.เมืองนนทบุรี ตนอยากให้คู่กรณีเลิกทำพฤติกรรมแบบนี้ เท่าที่ดูคาดว่าตกงานแน่นอน และจะมีการรายงานถึงอำเภอและฝ่ายปกครองให้ยึดเสื้อวิน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นบัญชีไว้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ทำมาหากินสุจริตดีกว่า
แสดงความคิดเห็น