เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่สอด นำโดย พ.ต.ท.เอกรัฐ นุชเฉย รอง ผกก.สส.สภ.แม่สอด , พ.ต.ท.ศุภกิจ ศรีไพร สวป.สภ.แม่สอด ,สำนักงานสรรพสามิต พื้นที่สาขาแม่สอด และศุลกากรแม่สอด ร่วมกันจับกุม ในความผิดฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งยาสูบที่มิได้เสียภาษี เกินกว่าห้าร้อยกรัมหรือยาสูบประเภทยาเส้นที่มิได้เสียภาษี” (ม.165 พ.ร.บ.สรรพสามิตยาสูบ พ.ศ.2560 ) และขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน (ม.๒๐๔ พ.ร.บ.สรรพสามิตยาสูบ พ.ศ.2560) และ “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดย ประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตร 24๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือทั้งจำทั้งปรับ” (ม.246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560)
พร้อมของกลาง บุหรี่ไทยและบุหรี่ต่างประเทศ คละยี่ห้อ จำนวน 25,690 ซอง (513,800 มวน) รวมมูลค่ากว่า 2,500,000 บาท โดยจับกุมได้ ที่หมู่ที่ 7 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก
พฤติการณ์แห่งการจับกุม ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สอด โดย พ.ต.ท.เอกรัฐ นุชเฉย รอง ผกก.สส.สภ.แม่สอด , พ.ต.ท.ศุภกิจ ศรีไพร สวป.สภ.แม่สอด ได้รับแจ้งจากสายลับ (ประสงค์รับเงินรางวัลนำจับ) ทราบว่าภายใน บ้านหมู่ 7. ต.แม่ปะ เป็นสถานที่ต้องสงสัยในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซุกซ้อนสินค้าหนีภาษี ประเภทบุหรี่ซิการ์แรต ประกอบกับจากการสืบสวนลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบว่า สถานที่ดังกล่าวมีรถยนต์ค้นสินค้าผลัดเปลี่ยนกันเข้าออกภายในบ้าน เชื่อได้ว่าสถานที่ดังกล่าวมีการขนส่งสินค้าจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด จึงได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเลขที่ดังกล่าว พบ นายยะ ........อายุ 30 ปี เป็นเจ้าของบ้านและผู้ครอบครองดูแลบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้สอบถาม นายยะ .......ให้การว่า “กล่องพัสดุที่วางอยู่บริเวณในบ้านเลขที่ดังกล่าวนั้น ภายในบรรจุบุหรี่ซิการ์แรต” เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขอทำการตรวจค้น และความบริสุทธิ์ใจในการตรวจค้น จากนั้นจึงได้ให้นายยะ. เป็นผู้นำการตรวจค้นและยินยอมให้ตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว โดยขณะทำการตรวจค้นพบ ของกลางบุหรี่ จำนวน 25,690 ซอง (513,800 มวน) อยู่ภายในบ้านเลขที่หลังดังกล่าว
จากสอบถามนายยะ....... ยอมรับว่าบุหรี่ซิการ์แรต ที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้ เป็นของตนเองจริงซึ่งมีไว้เพื่อนำไว้ขายตามที่ลูกค้าได้มีการสั่งซื้อสินค้า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้นายสุริยะฯ ผู้ถูกจับทราบว่าเขาจะต้องถูกจับและแจ้งข้อกล่าวหา ให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งยาสูบที่มิได้เสียภาษี เกินกว่าห้าร้อยกรัมหรือยาสูบประเภทยาเส้นที่มิได้เสียภาษี” (ม.165 พ.ร.บ.สรรพสามิตยาสูบ พ.ศ.2560 ) และขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน (ม.๒๐๔ พ.ร.บ.สรรพสามิตยาสูบ พ.ศ.2560) และ “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดย ประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตร 24๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือทั้งจำทั้งปรับ” (ม.246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560)” ชั้นจับกุม ผู้ถูกจับกุม ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า “บุหรี่ซิการ์แรตดังกล่าวมีไว้เพื่อจำหน่ายตามที่ลูกค้าได้มีการสั่งซื้อสินค้าและอาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฎิบัติงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบุหรี่จากประเทศเพื่อนบ้าน นำมาขายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อ จากนั้น ได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง มาทำบันทึกจับกุมที่ สภ.แม่สอด และนำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง ส่ง พนักงานสอบสวน .สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อนึ่งมูลค่าการเสียภาษีในครั้งนี้ 15,000,000 บาทเศษ และค่าปรับ ประมาณ 22,000,000 บาทเศษ
สถานีตำรวจภูธรแม่สอด แจ้งเตือนประชาชน การครอบครองและจำหน่ายบุหรี่ผิดกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองเกินกว่า 500 กรัม ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 10 เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบ ห้ามมิให้ผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบฝ่าฝืนมีโทษปรับ 15 เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบ ห้ามไม่ให้ผู้ใด ขาย ซื้อ รับจำนำ หรือรับบุหรี่ที่ยังไม่เสียภาษี ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ
แสดงความคิดเห็น