ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท. กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6. พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รอง ผบช.ภ.6 รักษาการ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก, พ.ต.อ. ไพฑูรย์ สุขุมวัฒนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก, พ.ต.อ. สถาพร รอดโพธิ์ทอง รองผู้บังคับการจังหวัดตาก, พ.ต.อ. เทพประธาน นิธิวรรณ์ รองผู้บังคับการจังหวัดตาก, และ พ.ต.อ.ศรายุทร  แผลงปัญญา  รักษาการ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่สอด นำโดย พ.ต.ท.เอกรัฐ  นุชเฉย รอง ผกก.สส.สภ.แม่สอด , พ.ต.ท.ศุภกิจ  ศรีไพร สวป.สภ.แม่สอด ,สำนักงานสรรพสามิต พื้นที่สาขาแม่สอด และศุลกากรแม่สอด ร่วมกันจับกุม ในความผิดฐาน  “มีไว้ในครอบครองซึ่งยาสูบที่มิได้เสียภาษี เกินกว่าห้าร้อยกรัมหรือยาสูบประเภทยาเส้นที่มิได้เสียภาษี” (ม.165 พ.ร.บ.สรรพสามิตยาสูบ พ.ศ.2560 ) และขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน (ม.๒๐๔ พ.ร.บ.สรรพสามิตยาสูบ พ.ศ.2560) และ “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดย ประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตร 24๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือทั้งจำทั้งปรับ” (ม.246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560)

พร้อมของกลาง บุหรี่ไทยและบุหรี่ต่างประเทศ คละยี่ห้อ จำนวน  25,690 ซอง (513,800 มวน) รวมมูลค่ากว่า 2,500,000  บาท โดยจับกุมได้ ที่หมู่ที่ 7  ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก


 พฤติการณ์แห่งการจับกุม ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สอด โดย พ.ต.ท.เอกรัฐ  นุชเฉย รอง ผกก.สส.สภ.แม่สอด , พ.ต.ท.ศุภกิจ  ศรีไพร สวป.สภ.แม่สอด  ได้รับแจ้งจากสายลับ (ประสงค์รับเงินรางวัลนำจับ) ทราบว่าภายใน บ้านหมู่ 7. ต.แม่ปะ เป็นสถานที่ต้องสงสัยในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซุกซ้อนสินค้าหนีภาษี ประเภทบุหรี่ซิการ์แรต ประกอบกับจากการสืบสวนลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบว่า สถานที่ดังกล่าวมีรถยนต์ค้นสินค้าผลัดเปลี่ยนกันเข้าออกภายในบ้าน เชื่อได้ว่าสถานที่ดังกล่าวมีการขนส่งสินค้าจริง  


เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด จึงได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเลขที่ดังกล่าว พบ นายยะ ........อายุ 30  ปี  เป็นเจ้าของบ้านและผู้ครอบครองดูแลบ้าน  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้สอบถาม นายยะ .......ให้การว่า “กล่องพัสดุที่วางอยู่บริเวณในบ้านเลขที่ดังกล่าวนั้น ภายในบรรจุบุหรี่ซิการ์แรต” เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขอทำการตรวจค้น และความบริสุทธิ์ใจในการตรวจค้น จากนั้นจึงได้ให้นายยะ. เป็นผู้นำการตรวจค้นและยินยอมให้ตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว โดยขณะทำการตรวจค้นพบ ของกลางบุหรี่ จำนวน 25,690 ซอง (513,800 มวน)   อยู่ภายในบ้านเลขที่หลังดังกล่าว 


จากสอบถามนายยะ....... ยอมรับว่าบุหรี่ซิการ์แรต ที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้ เป็นของตนเองจริงซึ่งมีไว้เพื่อนำไว้ขายตามที่ลูกค้าได้มีการสั่งซื้อสินค้า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้นายสุริยะฯ ผู้ถูกจับทราบว่าเขาจะต้องถูกจับและแจ้งข้อกล่าวหา ให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งยาสูบที่มิได้เสียภาษี เกินกว่าห้าร้อยกรัมหรือยาสูบประเภทยาเส้นที่มิได้เสียภาษี” (ม.165 พ.ร.บ.สรรพสามิตยาสูบ พ.ศ.2560 ) และขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน (ม.๒๐๔ พ.ร.บ.สรรพสามิตยาสูบ พ.ศ.2560) และ “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดย ประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตร 24๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือทั้งจำทั้งปรับ” (ม.246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560)” ชั้นจับกุม ผู้ถูกจับกุม ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า “บุหรี่ซิการ์แรตดังกล่าวมีไว้เพื่อจำหน่ายตามที่ลูกค้าได้มีการสั่งซื้อสินค้าและอาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฎิบัติงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบุหรี่จากประเทศเพื่อนบ้าน นำมาขายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อ จากนั้น ได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง มาทำบันทึกจับกุมที่ สภ.แม่สอด และนำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง ส่ง พนักงานสอบสวน .สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


อนึ่งมูลค่าการเสียภาษีในครั้งนี้ 15,000,000 บาทเศษ และค่าปรับ ประมาณ 22,000,000 บาทเศษ

สถานีตำรวจภูธรแม่สอด แจ้งเตือนประชาชน การครอบครองและจำหน่ายบุหรี่ผิดกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองเกินกว่า 500 กรัม ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 10 เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบ ห้ามมิให้ผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบฝ่าฝืนมีโทษปรับ 15 เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบ ห้ามไม่ให้ผู้ใด ขาย ซื้อ รับจำนำ หรือรับบุหรี่ที่ยังไม่เสียภาษี ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ

แสดงความคิดเห็น