คณะกรรมการผู้ใช้พลังงานเขต 6 ลงพื้นที่ตรวจสอบปม ตา ยายชาวบุรีรัมย์เผาถ่านขายเลี้ยงหลาน 3 ชีวิต ร้อง กฟภ.ตรวจสอบค่าไฟแพงขึ้นผิดปกติเดือนละ 1,700 – 1,800 บาท  จนไม่มีเงินจ่ายถูกยกหม้อต้องอยู่ในความมืดนาน 4 เดือน ชี้หากผลตรวจสอบเกิดจากมิเตอร์ หรือ จนท.ผิดพลาดต้องรับผิดชอบเยียวยา


 ความคืบหน้ากรณีที่นายอ้วน  อู่สำราญ  อายุ 71 ปี และนางนำ  อู่สำราญ อายุ 72 ปี  สองสามีภรรยา ชาวบ้านตามั๊วะ  ต.บ้านยาง  อ.เมือง จ.บุรีรัมย์  ซึ่งมีอาชีพเผาถ่านขายเลี้ยงชีพ และดูแลหลานสาวอีก 3 คน  อายุ 1 ขวบ 3 ขวบและ 11 ขวบ  ได้ออกมาร้องขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง   หลังจากค่าไฟแพงขึ้นผิดปกติต่อเนื่องมาหลายเดือน เฉลี่ยเดือนละ 1,700 – 1,800 บาท  ทั้งที่ภายในบ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าแค่ไม่กี่อย่าง อาทิ ตู้เย็น   หม้อหุงข้าว  พัดลม  ทีวี  และหลอดไฟส่องสว่างในบ้านอีก 4 หลอนเท่านั้น   ขณะที่ตา ยาย มีรายได้จากการเผาถ่านขายเฉลี่ยสัปดาห์ละ 400 – 500 บาท รวมกับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคนละ 700 บาทต่อเดือน ก็จะมีรายได้เดือนละประมาณ 3,400 บาท  แต่หากต้องจ่ายค่าไฟไป 1,800 บาท ก็จะเหลือใช้กินอยู่และเลี้ยงหลาน 3 คนเดือนละประมาณ 1,600 บาท ซึ่งไม่เพียงพอบางวันก็ตากับยายก็ต้องกินข้าวคลุกเกลือและน้ำปลา เพื่อเก็บเงินไว้ซื้อนมให้หลานและให้ค่าขนมหลานคนโตไปโรงเรียน    ตายายก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าไฟที่ค้างอยู่ 2 เดือน คือ เดือน ส.ค.และ ก.ย.2567 รวม 3,624 บาท   จึงได้ถูกตัดไฟไม่มีไฟฟ้าใช้หลานๆ ต้องอยู่กับความมืดมานาน 4 เดือนแล้ว  


 ล่าสุดนางสายรมย์  เขียวรัมย์   พร้อมด้วย น.ส.วยุรี  ศรีสูงเนิน  คณะกรรมการผู้ใช้พลังงานเขต 6 (คพข.เขต 6)  ได้ลงพื้นที่ไปสอบถามรายละเอียดจากตา ยาย พร้อมทั้งตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน  ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีผู้ที่อาศัยอยู่ประจำ 5 คน คือ ตา ยาย หลาน 3 คน อายุ 1 ขวบ 3 ขวบ และ 11 ขวบ  ส่วนลูกชายและหลานชายไปๆ มาๆ ไม่ได้อยู่ประจำ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีตู้เย็น 1 เครื่อง หม้อหุงข้าว 1 ใบ กาต้มน้ำร้อน 1 ใบ ทีวี 1 เครื่อง พัดลม 1 ตัว  ดูแล้วการใช้ไฟฟ้าโดยรวมไม่น่าจะถึงเดือนละ 1,800 บาท  แต่จากการสอบถามคุณตา ก็บอกว่าเมื่อก่อนตอนที่ลูกชายและลูกสะใภ้ซึ่งประกอบธุรกิจค้าขาย ใช้มิเตอร์ขนาด 5 แอมป์  ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นมิเตอร์ขนาด 15 แอมป์   แต่ทั้ง 2 ขนาดก็มีค่าไฟไม่แตกต่างกัน     ส่วนบ้านหลังที่ลูกเคยอาศัยและประกอบธุรกิจค้าขายปัจจุบันก็ไม่มีใครอยู่อาศัยปล่อยร้าง  เพราะถูกธนาคารยึด


จากกรณีดังกล่าวทางคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานเขต 6 จจึงได้พาคุณตา ไปยื่นคำร้องกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดบุรีรัมย์  เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบและติดตั้งมิเตอร์ใหม่ให้  เนื่องจากการตัดมิเตอร์ ถ้าเกิน 3 เดือนแล้ว จะต้องทำเรื่องขอมิเตอร์ใหม่ และคุณตา ต้องจ่ายค่าไฟที่ค้างและเสียค่ามิเตอร์ใหม่ รวมกว่า 4,000 บาท หลังจากนั้นทางการไฟฟ้าก็จะทำการเปรียบเทียบการใช้ไฟกับตัวเดิม  ซึ่งต้องผ่านไปก่อนหนึ่งเดือน  แล้วมาสรุปร่วมกันอีกครั้ง   ว่าสาเหตุที่ค่าไฟแพงเพราะอะไร  ซึ่งหากพบว่าสาเหตุที่ค่าไฟแพงเกิดจากความผิดพลาดของมิเตอร์ หรือเจ้าหน้าที่   ก็จะต้องรับผิดชอบเยียวยาให้กับคุณตา   แต่หากเกิดจากการใช้ไฟของผู้ใช้ไฟเอง  ก็ต้องมาดูอีกทีว่าเพราะอะไรถึงทำให้เกิดค่าไฟที่แพงไม่สอดคล้องกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอีกครั้ง




สุรชัย   พิรักษา  / บุรีรัมย์


แสดงความคิดเห็น