เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีทหารเมียนม่า ยิงเรือประมงไทย ที่บริเวณ ทะเลอันดามัน ระหว่างเกาะพยาม จ.ระนอง คาบเกี่ยว เกาะย่านเชือก ประเทศเมียนม่า จนเป็นเหตุให้มีชาวประมงไทยเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 2 ราย พร้อมทั้งลากเรือประมงไทย 1 ลำ ภายในเรือมีคนไทย จำนวน 4 คน และแรงงานต่างด้าวอีก 27 คน เข้าเขตปรเเทศเมียนม่ายังไม่รู้ชะตากรรม  ขณะที่ เมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.67) ญาติชาวไทยที่ถูกทหารเมียนม่าจับกุมตัวได้เดินทางจำนวน 5 คน เข้าเยี่ยมที่เกาะสอง ประเทศเมียนม่า ได้เข้าพบปะพูดคุยกับผู้ที่ถูกจับกุมตัว ซึ่งคิดว่าจะได้รับการปล่อยตัว แต่ทางการเมียนม่าอ้างว่าเอกสารการปล่อยตัวไม่ครบ ต้องรอให้ทาง ตรวจคนเข้าเมืองเมียนม่า ตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม ทางญาติทั้ง 4 คน ที่ถูกจับกุมจึงได้เดินทางกลับบ้านน้ำเค็ม ล่าสุดทาง นางปริญกมร ธัญชร อายุ 63 ปี หรือ ป้าบ๊วย ภรรยา นายวิโรจน์ สะพานทอง ณ นคร อายุ 68 ปี หรือ โกสา เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้าโควิดปี 62 ตนเองและครอบครัวมีเรือหลายลำ กระทั่งสถานการณ์โควิด

ทำให้ต้องขายเรือออกเหลือเพียงเรือ ส.เจริญชัย 8 เพียงลำเดียว ในช่วงวันที่ 29 พ.ย.67 คืนเกิดเหตุ สามีตนลงไปกับเรือด้วยพร้อมไต๋เรือ หรือกำตันเรือ และลูกน้อง จนถูกทหารเมียนม่าจับกุม เมื่อวาน (6 พ.ย.67) ได้เดินทางไปพบสามีรู้สึกดีใจ ที่ยังได้พบเจออีกครั้ง ได้พูดคุยทราบว่าทางเมียนม่าดูแลตามสภาพของผู้ที่ถูกจับกุม ส่วนที่ต้องการให้รัฐบาลไทยช่วยเร่งนำตัวสามี คนไทยที่ถูกจับลูกเรือทั้งหมดและเรือกลับคืนมา ตนเองลำบากกับสถานการณ์โควิดไปรอบหนึ่งแล้ว ตอนนี้เป็นหนี้สินไม่มีเงินทั้งไม่มีรายได้จากประมง สามีติดอยู่ประเทศเมียนม่า ขอวิงวอนให้ภาคส่วนราชการ รัฐบาล ได้ช่วยเหลือตนเองด้วยทั้งเร่งการปล่อยตัวและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น





พรชัย แซ่เอี๋ยว ข่าว/ภาพ/พังงา  โทร.081-315-8777
 

แสดงความคิดเห็น