สภาสมาคมสตรีแห่งชาติถวายทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรเด็กเยาวชนสร้างเสริมบุญค้ำจุนศาสนาเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัวครบ 6 รอบ 72 พรรษา

 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 เวลา 09.15 นาฬิกา ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังใหม่ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายอังกูร ศิลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ร่วมเป็นประธานในพิธีถวายทุนการศึกษาแด่พระภิกษุและสามเณร ในโครงการสร้างเสริมบุญค้ำจุนศาสนา ถวายทุนการศึกษาแด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณร และมอบทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน ในโครงการมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชน 460 ทุน ตามโครงการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปี 2567

เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ครบรอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 92 พรรษา  12 สิงหาคม 2567 สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมายุ 46 พรรษา 3 มิถุนายน 2567 และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 69 พรรษา 2 เมษายน 2567

โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้ด้วย โอกาสนี้ด็อกเตอร์ ฉันทนา เปียทอง รองประธานสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชุปถัมภ์  กล่าวรายงานว่า ทั้งสองโครงการทางสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ดำเนินการถวายทุนการศึกษาและมอบทุนการศึกษาไปแล้วทั้ง 5 ภาค ซึ่งจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดสุดท้ายในการมอบทุนดังกล่าว โดยวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ได้ถวายเงินแด่พระภิกษุและสามเณร จำนวน 1 ทุน รวมเป็นเงิน 200,000 บาท เป็นทุนของสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ และทุนของประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ สำหรับวันนี้เป็นการมอบทุนให้กับเด็กและเยาวชนจังหวัดกระบี่ จำนวน 70 ทุนๆละ 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 310,000 บาท โดยมีบริษัทเบอร์ลี่ยุคเกอร์จำกัดมหาชน

ให้การสนับสนุนอาหารว่างแก่เด็กและเยาวชนผู้รับทุนทั้ง 5 ภาค เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมให้พระภิกษุและสามเณร รวมถึงเด็กและเยาวชน ที่ขยันหมั่นเพียรในการศึกษาได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น เป็นการบรรเทาช่วยเหลือครอบครัวอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อให้ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษามีจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศ์สานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงมีความห่วงใยและเคารพยึดมั่นในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา และสามารถออกไปเผยแผ่คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กับชาวไทยได้เข้าใจในหลักธรรมของการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข และมีความห่วงใยเด็กและเยาวชนไทยทุกคนที่กำลังศึกษาเล่าเรียน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางได้มีโอกาสทางการศึกษาในระดับที่สูงๆขึ้น เมื่อจบการศึกษาแล้วสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างมีความสุข