วันนี้ (22 ธันวาคม 2567) เวลา 16.00 น. ณ แหล่งสมาคมโรงเรียนทหารขนส่ง (โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล ขส.ทบ.) พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำมีอาชีพเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ  28 กรกฎาคม 2567

ของสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดนนทบุรี และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน 

โดยมีนายเกียรติศักดิ์  ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวต้อนรับ 

นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวรายงาน

การจัดงานดังกล่าวเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ความว่า "การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน คือ 

1. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง 

2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม 

3. มีงานทำ มีอาชีพ 

4. เป็นพลเมืองที่ดี"

สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดนนทบุรี และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมใจกันนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษามาสู่การปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วทั้งจังหวัด

 โดยได้ทำความตกลงร่วมมือกับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนนทบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรีเขต 1 และเขต 2 สำนักงานส่งเสริมการเรียนจังหวัดนนทบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี เทศบาลในจังหวัดนนทบุรี และสถานประกอบการ 

ได้ร่วมมือดำเนินการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำมีอาชีพ (EDUCATION FOR CAREER READINESS) นนทบุรีโมเดล

 ให้เป็นระบบการศึกษาที่มีการยืดหยุ่นและเอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้จักงานอาชีพอย่างกว้างขวาง

มุ่งส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาความรู้ ทักษะ และเจตคติอันดี ผ่านการศึกษา การฝึกอบรมและการปฏิบัติงาน สั่งสมความรู้และทักษะที่จำเป็นในการทำงาน สามารถนำความรู้และประสบการณ์มาเทียบโอนผลการเรียนผ่านระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) 

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชากรวัยเรียนและวัยทำงานเข้าถึงการศึกษาอาชีวศึกษา ด้วยการขยายวิธีการและกลุ่มเป้าหมาย ตามความถนัดและความสนใจได้อย่างชัดเจนทั่วถึง มีอาชีพมีงานทำ เพื่อยกระดับการศึกษาวิชาชีพของประชากรวัยทำงานให้สูงขึ้น มีอาชีพมีงานทำ สอดคล้องกับความต้องการของตนเอง สถานประกอบการ ตลาดแรงงาน และมีเป้าหมายสำคัญคือ การเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนทั้งที่อยู่ในระบบและหลุดออกจากระบบการศึกษาได้กลับมามีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ผ่านการศึกษาในรูปแบบต่างๆ (Zero Drop Out) มุ่งให้มีทักษะในการประกอบอาชีพและสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ เน้นการพัฒนาระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ตามศักยภาพของผู้เรียน ด้วยการวัดผลและรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate)

 โดยได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนการจัดการศึกษา เพื่อการมีอาชีพมีงานทำ (EDUCATION FOR CAREER READINESS) นนทบุรีโมเดล แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ดังต่อไปนี้

รูปแบบที่ 1 จัดการเรียนการสอนห้องเรียนอาชีพในสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) และมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) มีความรู้ และทักษะด้านอาชีพ ในกลุ่มอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน และตลาดแรงงาน สามารถเข้าถึงกลุ่มอาชีพพื้นฐานตามความถนัด ความสนใจ และสามารถเทียบโอนผลการเรียนหรือเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ เพื่อการสะสมหน่วยกิต (Credit Bank)ได้ 

โดยกำหนดแนวทางในการดำเนินการ  2 แนวทาง คือ

แนวทางที่ 1.1 จัดการเรียนการสอนโดยพัฒนาหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นเป็นรายวิชา

เพิ่มเติมหรือวิชาเลือกในหลักสูตรระดับมัธยมศึกษา

แนวทางที่ 1.2 จัดการเรียนการสอนโดยนำรายวิชาในหลักสูตรระดับ ปวช.หรือปวส.

ไปเป็นรายวิชาเพิ่มเติมหรือวิชาเลือกในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อสะสมหน่วยกิต

(Credit Bank)

  รูปแบบที่ 2 จัดการเรียนการสอน และการฝึกอบรมอาชีพ สำหรับแรงงานไร้ฝีมือ ผู้ว่างงาน

และผู้ที่ต้องการมีอาชีพเสริมเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนที่จบชั้น ม.3 และหรือเรียนในชั้น ม.4-6 ที่ออกกลางคันหลุดจากระบบการศึกษา แรงงานไร้ฝีมือ ผู้ว่างงาน และผู้ที่ต้องการมีอาชีพเสริม มีโอกาส

กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาสายอาชีพ เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นแรงงานฝีมือ หรือศึกษาต่อในระดับ ปวช. ปวส. และปริญญา สามารถเข้าเรียนหรือฝึกอบรมใน 2 แนวทางคือ

แนวทางที่ 2.1 จัดการเรียนการสอนในโครงการอาชีวะสร้างช่างฝีมือตามแนวทางโรงเรียนพระดาบส

แนวทางที่ 2.2 จัดการฝึกอบรมหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น ให้กับผู้ที่หลุดอออกจากระบบการศึกษา แรงงานไร้ฝีมือ ผู้ว่างงาน และผู้ที่ต้องการมีอาชีพเสริม















 ประยงค์  วิลัย  /ภาพข่าว

แสดงความคิดเห็น