เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 30 ธ.ค.2567 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ไกรสิงห์ วังนัยกุล สว.(สอบสวน) สภ.เกาะคา จ.ลำปาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.หญิง กิ่งกมล ตะยะพงค์ ผกก.กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศพฐ.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศพฐ.5 ลำปาง ลงพื้นตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไฟไหม้รถทัวร์โดยสารประจำทางสายกรุงเทพ ฯ-เชียงใหม่บนถนนพหลโยธินสายลำปาง‐ตาก เขตบ้านหาดปู่ด้าย ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน แและตรวจสอบสาเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ ศพฐ.5 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากระบบน้ำมันเชื้อเพลิงสายรั่วหยดใส่เครื่องยนต์ที่ร้อนจนเกิดประกายไฟลุกไหม้ลามไหม้ห้องเครื่องท้ายรถก่อนที่ไฟจะลามไหม้ห้องโดยสารชั้นบนและชั้นล่างของรถเสียหายทั้งคันดังกล่าวซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบอีกที
ร.ต.อ.ไกรสิงห์ กล่าวว่า รถทัวร์โดยสารคันดังกล่าวจากการตรวจสอบล่าสุด พบว่า รถจดทะเบียรถยนต์โดยสารในปี 2565 มีผู้โดยสารทั้งหมดประมาณ 50 คน ขณะเกิดเหตุมีผู้โดยทั้งหมดประมาณ 20 คน เนื่องจากมีการลงระหว่างทาง จ.ตาก และ จ.กำแพงเพชร มากกว่าครึ่งที่เหลือส่วนมากจะลงที่ จ.ลำปาง แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ เนื่องจากรายชื่อถูกไฟไหม้ ต้องตรวจสอบจากสถานีต้นทางที่กรุงเทพฯอีกทีส่วนมูลค่าความเสียหายตัวรถไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 20.50 น.วันที่ 29 ธ.ค.2567 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ไกรสิงห์ วังนัยกุล สว.(สอบสวน) สภ.เกาะคา จ.ลำปาง ได้รับแจ้งเกิดเหตุไหม้รถทัวร์โดยสารสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ บนถนนพหลโยธินสายลำปาง-ตาก ช่วง กม.671-500 เขตบ้านหาดปู่ด้าย ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง จึงแจ้งประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.นาแส่งแและพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปาง จุดเกาะคา กู้ภัยอำเภอเกาะคา รถกู้ภัย กู้ชีพ รพ.เกาะคา รุดไปตรวจสอบช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุบนถนนสายดังกล่าวพบไฟกำลังโหมลุกไหม้รถทัวร์โดยสารของบริษัท วิริยะทัวร์ สีขาวคาดสีฟ้า หมายเลขทะเบียน 16-6394 กทม เจ้าหน้าที่จึงฉีดน้ำดับเพลิงไว้ได้แต่รถถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคันโชคดีที่ผู้โดยสารทั้งหมดไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ในการนี้นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าฯลำปาง พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เวลา 10.00 น.วันดังกล่าวรถรับผู้โดยสารมาจากกรุงเทพฯ ปลายทาง จ.เชียงใหม่ จำนวน 50 คน แต่ลงรถระหว่างทางในพ้นที่ จ.นครสวรรค์ ตาก และ จ.กำแพงเพชร เหลือผู้โดยสารในรถขณะเกิดเหตุจำนวน 20 คน
จากการสอบถามเด็กประจำรถ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุรถจอดส่งผู้โดยสารที่ อ.สบปราบ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุอีกประมาณ 33 กม.จะถึงสถานีขนส่งฯลำปาง รถที่วิ่งตามมาหลายคันบีบแตร และเปิดไฟสูงใส่ จึงมองดูที่กระจกหน้ารถพบมีควันไฟที่ด้านหลังรถจึงให้คนขับจอดข้างทางเพื่อลงมาดู พบไฟกำลังลุกไหม้ที่ห้องเครื่องท้ายรถ จึงวิ่งขึ้นรถมาบอกผู้โดยสารให้หนีออกจากรถเนื่องจากไฟไหม้ ต่างวิ่งหนีกันอวลหม่าน จากนั้นตนได้วิ่งเข้าไปเอาถังดับเพลิงในรถมาฉีดดับไฟแต่ไม่สามารถดับได้ เพลิงลุกไม้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ 20 นาที บนรถถูกไฟไหม้จนหมด สิ่งของ กระเป๋าผู้โดยสารที่เอาลงไม่ทัน เบาะหนังภายในรถ ถูกไฟเผาไม้จนเหลือแต่โครงเหล็ก
นายไพโจน์ อายุ 42 ปี ชาว จ.นครราชสีมา คนขับรถ เปิดเผยว่า รถคันดังกล่าวมีคนขับ 2 คน ตนขับรถพร้อมผู้โดยสารมาจากกรุงเทพฯและได้เปลี่ยนคนขับอีกคนขับต่อที่ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เพื่อพักผ่อนตอนขับมาก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนขับบอกกว่าไฟเครื่องที่หน้าปัดกระพริบเตือน ตนจงบอกให้รีบจอดเพื่ที่จะเช็คดูความผิดปกติของเครื่อง เมื่อเด็กรถลงไปดูพบไฟไหม้รถที่ท้ายห้องเครื่องจึงบอกผู้โดยสารรีบลงจากรถดังกล่าว ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.
วินัย/ลำปาง รายงาน.
แสดงความคิดเห็น