เมื่อเวลา 22.06 น.วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.ท.สิทธาวัชร์ ชวกรเธียรรัตน์ สว.สอบสวน สภ.บางละมุง รับแจ้งเหตุว่ามีบุคคลมีอาการคุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของและเผารถยนต์ กระบะจนได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 10/3 ม.4 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้ง จึง รายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง ให้ทราบ ก่อนรีบนำกำลังไปตรวจสอบ 

     เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ช่วยกันดับไฟจากรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทาหมายเลขทะเบียน บพ 7470 ระยอง ยังมีกลุ่มควันโชยคละคลุ้ง ตัวรถ ถูกเปลวไฟเผาไหม้จนได้รับความเสียหายทั้งคัน ตรวจสอบยังพบ กำแพงบ้าน พัดลมและทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายของผู้แจ้งได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง เหลือเพียงชาวบ้านที่ด่าทอ สาปแช่งพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ

     สอบถามน.ส.สุภาวดี นันบุตรดี อายุ 48 ปี มารดาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่าลูกชายคือนายศราวุฒิ ศิริวงษ์ หรือวิน อายุ 28 ปี เป็นลูกหัวแก้วหัวแหวนที่ตนเองรักมาก อยากได้อะไรก็หาซื้อให้ ไม่คิดว่าจะไปหลงผิดติดยาเสพติด ถึงขั้นคุ้มคลั่งเสียสติ ก่อนเกิดเหตุลูกชายออกตามหาเหรียญรัชกาลที่ห้า ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าหมายถึงอะไร เมื่อไม่มีใครหาได้เจ้าตัวจึงทุบทำลายข้าวของภายในบ้าน ด่าทอขู่ฆ่าพ่อแม่ ลูกเมีย ตนเองทนไม่ไหวจึงเดินทางไปแจ้งความ 

     แต่ระหว่างนั้น ได้รับแจ้งจากทางบ้านว่าลูกชายตัวดี ก่อเหตุใช้น้ำมัน ราดรถยนต์กระบะจนชุ่มไปทั้งคัน แล้วจุดไฟเผา อย่างน่าตาเฉย ตนเองเห็นว่าหากปล่อยให้ลูกชายอยู่แบบนี้ จะต้องเกิดเหตุร้ายและความไม่ปลอดภัยกับครอบครัว และประชาชนในละแวกใกล้เคียง จึงตัดสินใจแจ้งความให้เจ้าหน้าที่จับกุมไปดำเนินคดี รวมถึงบำบัดในเรื่องของการติดยาเสพติดด้วย

      ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยังพบอาวุธปืน ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพาย เป็นอาวุธปืนแบบลูกโม่ขนาด .38 ม.ม. 1 กระบอกพร้อมใช้งาน ส่วนอีก 1 กระบอก ถอดเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ พร้อมเครื่องกระสุนหลายขนาดอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งแม่ยังแจ้งอีกว่าที่ตัวลูกชายนั้น ยังมีอาวุธปืนอีกหนึ่งกระบอกที่พกติดตัวตอนหลบหนีไป จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวเนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย เกรงว่าจะไปทำร้ายผู้อื่นหรือก่อเหตุไม่คาดฝันได้

      เบื้องต้นพ.ต.ท.สิทธาวัชร์ ชวกรเธียรรัตน์ สว.สอบสวน สภ.บางละมุง ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเก็บของกลางอาวุธปืนรวมถึงกล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐาน และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแส ของผู้ก่อเหตุเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป













ภาพ/ข่าว ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

แสดงความคิดเห็น