เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 พพ.ย.67 นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง พร้อมด้วยนายกำธร เวหน รอง ผวจ.ระยอง นายเรืองฤทธิ์ ประกอบธรรม ปลัดจังหวัดระยอง นายทัศนเดชา บุญสนธิ์ ป้องกันจังหวัดระยอง นายไกรยุทธ วิลาวัลย์ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ ฝ่ายปกครองอำเภอนิคมพัฒนา ฝ่ายปกครองจังหวัดระยอง ชุดเฉพาะกิจปกครองจังหวัดระยอง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายความมั่นคงจังหวัดระยอง และจนท.กองร้อยอส.จังหวัดระยอง ร่วมกันจับกุมนายปรเมษฐ์ หรือฟลุ๊ค อายุ 19 ปี ชาวระยอง นายอภิสิทธิ์ หรือออม อายุ 18 ปี พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืน (แบลงค์กัน) ขนาด.380 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน ขนาด .380 จำนวน 2 นัด เครื่องกระสุน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด หัวเปลี่ยนบุหรี่ไฟฟ้า (ยังไม่ผ่านการใช้งาน) 41 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้า (ยังไม่ผ่านการใช้งาน) 9 อัน 


จากการสอบสวนทราบว่า ตามนโยบายนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง ได้สั่งการให้ชุดฝ่ายความมั่นคงจังหวัดระยอง ฝ่ายปกครองจังหวัดระยอง กวดขันปราบปรามผู้มีอิทธิพล บ่อนอบายมุขต่างๆ ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว ด้านทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ซึ่งชุดฝ่ายความมั่งคงจ.ระยองได้รับร้องว่ามีการโพสต์โชว์อาวุธปืนในเฟสบุ๊ก AS NK จนท.จึงได้เข้าตรวจสอบจึงทราบว่าเฟสบุ๊กดังกล่าวเป็นของนายปรเมษฐ์ หรือฟลุ๊ค จากนั้นได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นร้านขายกัญชา ในพื้นที่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ซึ่งมีใบอนุญาตถูกต้องและพบนายอภิสิทธิ์ หรือออม อยู่ในห้องพักด้วย และได้ตรวจพบอาวุธปืนที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ที่นอน เป็นอาวุธปืน (แบลงค์กัน) ขนาด.380 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน นอกจากนี้ยังพบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีไว้จำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่นอีกด้วย จนท.จึงได้ยึดเป็นของกลาง ทั้งสองได้สารภาพว่าได้โชว์และโพสต์อาวุธปืนจำนวน 2 กระบอกจริงเพราะรู้เท่าไม่ถึงการ ส่วนอีกกระบอกได้ขายไปทางออนไลน์แล้ว และรับอีกกว่าทั้งสองเป็นเพียงลูกจ้างที่มาขายของและเฝ้าร้านขายกัญชาซึ่งร้านดังกล่าวเป็นของนายพีรพัฒน์ 



เบื้องต้นจนท.แจ้งข้อกล่าวหานายปรเมษฐ์ หรือฟลุ๊ค ในข้อหา 1. ซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ช่วยเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557

2. ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่องห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า ห้ามขายสินค้า

3. กระทำความผิดฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตามมาตร 209 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560


ส่วนนายอภิสิทธิ์ หรือออม ในข้อกล่าวหา 1. ซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ช่วยเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557

2. ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่องห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า ห้ามขายสินค้า

3. กระทำความผิดฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตามมาตร 209 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560

4. มีอาวุธปืนไม่มีทะเบียน (ปืนเถื่อน) และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

นำตัวทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.นิคมพัฒนาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป







แสดงความคิดเห็น