เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดชุมพรร่วมกับ กอ.รมน.จว.ช.พ. โดย จนท.ปฏิบัติการฝ่ายการข่าวฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (จังหวัดชุมพร) เจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยตชด. 414 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองชุมพร เจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลหาดพันไกร ลงพื้นที่ตรวจสอบ ไซต์ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองท่าตะเภา หมู่ที่ 6 ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร
ได้ร่วมกันจับกุม MISS WAI WAI LIN (นางสาวเวย เวย ลิน) เพศหญิง อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา และพวกรวม 11 คน โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตามมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนด การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 และเป็นคนต่างด้าวอยู่ใ ราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด หรือถูกเพิกถอน ตามมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ได้แจ้งสิทธิ์ให้ผู้ถูกจับ ทราบว่า ๑. ผู้ถูกจับมีสิทธิ์ที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้ ๒. ถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ ๓. ผู้ถูกจับมีสิทธิจะพบและปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ ๔. ผู้ถูกจับประสงค์จะแจ้งให้ญาติ หรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุมที่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวกและไม่เป็นการขัดขวางการจับหรือการควบคุมถูกจับ หรือทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด เจ้าพนักงานสามารถอนุญาตให้ผู้ถูกจับดำเนินการได้ตามสมควรแก่กรณี 5. ได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเกิดการเจ็บป่วย
เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าจับกุม ตามคำสั่งจังหวัดชุมพรที่ 4103/2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและนายจ้าง/สถานประกอบการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบ จับกุมผู้กระทำความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ได้เข้าตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าว ไซต์ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลอง ท่าตะเภา หมู่ที่ 6 ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ขณะเข้าตรวจสอบพบคนต่างด้าวกำลังทำงานอยู่ภายในไซต์ก่อสร้างดังกล่าวจำนวน 11 คน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงบัตรเพื่อขอตรวจสอบใบอนุญาตทำงานและหนังสือเดินทาง ปรากฏว่าคนต่างด้าวทั้ง 11 คน ไม่สามารถแสดงใบอนุญาตทำงานและหนังสือเดินทางแก่เจ้าหน้าที่ได้ ทราบชื่อภายหลังคือ MISS WAI WAI LIN (นางสาวเวย เวย ลิน) เพศหญิง อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา จากการสอบข้อเท็จจริงคนต่างด้าวให้การว่า ตนเองได้เดินทางหลบหนีเข้ามาประเทศไทย
ทางจังหวัดเชียงราย เพื่อมาหางานทำในประเทศไทย ซึ่งมีนายหน้าพามาส่งที่จังหวัดชุมพรและทำงานที่ไซต์ก่อสร้างดังกล่าว ประมาณเดือนเมษายน โดยทำงานในหน้าที่ผูกเหล็ก เวลา 08.00- 17.00 น.
ซึ่งทำงานมาแล้วเป็นระยะเวลา 7 เดือน ได้รับค่าจ้างวันละ 350 บาท โดยนายจ้าง(นายภานุพงษ์ นิยมลาภ) ชาวไทย จะเป็นคนจ่ายค่าจ้างเป็นเงินสด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ MISS WAI WAI LIN (นางสาวเวย เวย ลิน) ทราบว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตามมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 และเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด หรือถูกเพิกถอน ตามมาตรา 81 แห่พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ซึ่ง MISS WAI WAI LIN (นางสาวเวย เวย ลิน) ผู้ต้องหาทราบและเข้าใจข้อกล่าวหาดีแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกับแจ้งสิทธิให้ทราบ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร พร้อมภาพถ่ายตามเอกสารแนบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในการควบคุมตัวผู้ถูกจับ เจ้าหน้าที่ผู้จับกุมได้ทำการบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวผู้ถูกจับในชั้นจับกุมจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวน ตามมาตรา ๒๒ วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.๒๕๖๕
จากการสอบถามเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่แรงงานต่างด้าวให้การณ์ว่าได้เดินทางมาจากจังหวัดตาก โดยข้ามมาประเทศไทยในเส้นทางธรรมชาติบริเวณอำเภอแม่สอด และเดินทางไปในที่ต่างๆของประเทศไทย เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในเดือนเมษา และทั้ง 11คนเดินทางมาที่จังหวัดชุมพร เพราะมีคนต่างด้าวที่มาทำงานอยู่ที่จังหวัดชุมพรอยู่ก่อนแล้วติดต่อให้มาทำงานที่จังหวัดชุมพร ในช่วงที่เดินทางมาที่จังหวัดชุมพรได้มีคนไทยมาส่งโดยใช้รถกระบะบรรทุกมาเป็นรถกระบะที่ไม่มีหลังคาหรือตู้ทึบแต่งวอย่างไร โดยนั่งโดยสารมาหลังกระบะเช่นกับนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวของประเทศไทย
ในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าพนักงานผู้จับกุมได้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยไม่ได้บังคับ ขู่เข็ญ มิได้ทำให้ทรัพย์สินของผู้หนึ่งผู้ใดสูญหาย เสียหาย หรือเสื่อมค่าแต่ประการใด และมิได้ทำร้ายร่างกายผู้หนึ่งผู้ใดให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และมิได้นำเอาทรัพย์สินของผู้ใดมาเป็นประโยชน์แก่ตน หรือผู้อื่นแต่อย่างใด อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิขณะจับกุมให้ผู้ถูกจับกุมทราบแล้ว และเจ้าพนักงานได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุ แห่งการจับกุมให้ผู้ถูกจับกุมทราบและเข้าใจดีแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้อ่านให้ผู้ถูกจับฟังแล้ว (ผ่านล่ามแปลภาษา) แล้ว ผู้ถูกจับรับว่าถูกต้องทุกประการ จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ได้มอบสำเนาบันทึกการจับกุมให้กับ ผู้ถูกจับแล้ว จำนวน ๑ ฉบับ
ได้ควบคุมตัวส่งมอบให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินการตามกฏหมายและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
//ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากร/ชุมพร
แสดงความคิดเห็น