วันนี้ 24 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยว ที่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาว ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ เดินทางมาท่องเที่ยวสำคัญอากาศหนาวเย็น ที่ อำเภอสังขละบุรี กันอย่างล้นหลาม โดยอุณหภูมิในช่วงเช้าที่ อำเภอสังขละบุรี อยู่ที่ประมาณ 20 - 22 องศา มีหมอกลงบาง ๆ พร้อมอากาศที่เย็นสบาย



โดยกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่ อำเภอสังขละบุรี ย่อมหนีไม่พ้น การเดินเที่ยวชมความสวยงามของสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวสามารถรับชมทิวทัศน์ที่สวยงามเหนือแม่น้ำซองกาเลียได้แบบ 360 องศาและรับลมที่พัดเย็นสบายได้อย่างเต็มที่ ขณะที่สะพานลูกบวบซึ่งเป็นจุดสถานที่เช็คอินแห่งใหม่ที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสังขละบุรี วัดวังก์วิเวการาม ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ประชาชนในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับฤดูการท่องเที่ยว 2567 เป็นอีก1สถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นรับลมหนาวและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก




โดยมีเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มอญและพม่า ที่แต่งกายด้วยชุดประจำชาติ มาคอยบริการปะแป้ง ขายดอกไม้ บริการถ่ายรูปให้นกท่องเที่ยวและถ่ายรูปร่วมกับนักท่องเที่ยวบนสะพานมอญ


ส่วนกิจกรรมที่ทุกคนที่มาเที่ยวที่นี่ต้องทำคือการตักบาตรพระสงฆ์ บริเวณชุมชนชาวมอญบ้านวังกะซึ่งนักท่องเที่ยว จะแต่งกายด้วยชุด ประจำชาติของชาวไทยเชื้อสายมอญใน อ.สังขละบุรี มานั่งรอใส่บาตรพระสงฆ์ จากวัดวังก์วิเวการาม ที่มารับบิณฑบาตในช่วงเช้า รวมทั้งการชิมอาหารพื้นเมืองและการเดินเลือกซื้อสินค้าของฝากติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้านหรือเพื่อนสนิท ส่งผลให้บรรยากาศการค้าขายกลับมาคึกคักรับฤดูการท่องเที่ยว โดยช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวแห่เดินทางมาเที่ยวสังขละบุรีเฉลี่ยวันละกว่า 1,000 คน และเพิ่มเป็นวันละ 3-4,000 คนในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์




โดยในช่วงฤดูหนาวนี้ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยว จากทั่วประเทศให้ความนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวที่อำเภอสังขละบุรีกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีสภาพอากาศที่เย็นสบาย ไม่หนาวจนเกินไป อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมา ให้ได้สัมผัสกัน ทำให้บรรดาผู้ประกอบการค้า ที่พัก และร้านอาหาร ได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่คึกคักนี้ไปด้วย.


ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์

แสดงความคิดเห็น