เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2567 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.วิชาญ ศรีภัทรางกูร ผบ.มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง พ.อ.ประณต ศิริพันธุ์ รองเสธ.มทบ.32 เปิดโครงการส่งเสริมการเลี้ยงไข่ผำ พืชขนาดเล็กที่มีโปรตีนสูง และเลี้ยงง่าย ลงทุนน้อย เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพ และเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวกำลังพลและประชาชนทั่วไป ซึ่งโดยปกติ ทาง มทบ.32 มีโครงการทหารพันธุ์ดี ปลูกพืช ผัก หน่อไม้ เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงปลา ให้กับกำลังพลที่เข้าร่วมโครงการฯได้มีอาชีพหลังปลดประจำการ แต่ยังไม่เพียงพอ จึงจัดตั้งโครงการดังกล่าวขึ้น
พล.ต.วิชาญ กล่าวว่า มทบ.32 เปิดโครงการส่งเสริมการเลี้ยงไข่ผำ โดยการก่อสร้างโรงเรือนเพาะเลี้ยงไข่ผำ โครงการทหารพันธุ์ดีค่ายสุรศักดิ์มนตรี เพาะเลี้ยงในระบบปิดด้วยปุ๋ยน้ำไฮโดรโปนิกส์ ในบ่อปูนซีเมนต์ขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 3 และ 4 เมตร สูง 0.65 เมตร จำนวน 3 บ่อ มุงหลังคาด้วยพลาสติกใสและล้อมรอบด้วยมุ้งตาข่าย ทำโรงเรือนให้สะอาด สามารถป้องกันแมลงและยุงได้ รวมค่าก่อสร้างประมาณ 28,000 บาท ปล่อยน้ำสะอาดลงในบ่อระดับลึก ประมาณ 50 ซม.จากนั้นได้ทำการซื้อไข่ผำสายพันธุ์โกลโบซ่าจำนวน 4 กก.ในราคา 400 บาท นำมาปล่อยเลี้ยงในบ่อดังกล่าวและใช้ปุ๋ยน้ำไฮโดรโปรนิกส์(ปุ๋ย AB) ในการเพาะเลี้ยง ใช้เวลาในการเลี้ยงเพียงสองสัปดาห์สามารถนำมาจำหน่ายตลาดนัดหน้าค่ายฯโครงการทหารพันธุ์ดี โดยบรรจุใส่กล่องพลาสติกใสขนาด 250 กรัม ราคากล่องละ 25 บาท โดยเฉลี่ย 4 กล่อง 1 กก.ราคา 100 บาท ปรากฎว่าได้รับความสนใจและจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากราคาถูกกว่าทั่วไป
"เราเพาะเลี้ยงในโรงเรือนเพาะเลี้ยงไข่ผำด้วยระบบปิดแนวตั้ง มีกระบวนการเพาะเลี้ยงสะอาด และได้มาตรฐาน มีตาข่ายล้อมกันแมลง พลาสติกคลุมหลังคากันฝนและยุงไม่สามารถเข้าไปวางไข่ได้ และลงทุนซื้อพันธุ์ครั้งเดียวเก็บได้หลายครั้งดูแลง่ายเพียงระวังอย่าให้น้ำเสีย ถ้าน้ำเสียเราก็ปล่อยออก เติมน้ำสะอาดเข้าไปใหม่ รอให้เขาแตกตัวก็สามารถตักไปขายได้และตลาดยังต้องการอีกมาก ปล่อยเลี้ยงครั้งเดียว เก็บได้ตลอดจนกว่าจะหมด อนาคตจะเปิดโครงการอบรมให้กับผู้ที่สนใจทำเป็นอาชีพเสริมที่ดีมากและหากแปรรูปเป็นผำอบแห้งจะมีราคาแพงมาก"
ผบ.มทบ.32 กล่าวต่อว่า เดิมโครงการทหารพันธุ์ดี เราปลูกพืชผักเป็นหลัก ที่ผ่านมาโครงการเลี้ยงสัตว์ เราได้เลี้ยงสัตว์ด้วยอาหารเม็ดซึ่งมันไม่คุ้มทุน ผำก็เป็นพืชโปรตีนชนิดหนึ่งที่เราให้ความสนใจ เพราะว่าในทางงานวิจัยเขาว่าเป็นอาหารที่่มูลค่าสูง มีโปรตีนสูง มีวิตามินสูง โดยเฉพาะบี 12 ซึ่งพืชชนิดอื่นไม่มี แล้วก็เป็นซุปเปอร์ฟู้ดและเป็นที่นิยมมากขึ้น เราก็เลยมาส่งเสริมเลี้ยงผำ เพื่อที่จะให้กำลังพลมีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้น ให้มีอาหารโปรตีนในค่ายมากขึ้น นำมาทำอาหารได้หลายชนิด เมนูส่วนใหญ่ที่จะทำเป็นอาหารง่ายสุดคือไข่เจียวผำ แกงคั่วผำ ขนมคุกกี้ผำและขนมปังหน้าผำ สมูทตี้ผำและอื่นๆได้
พล.ต.วิชาญ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ไข่ผำ ฉายา คาเวียร์เขียว ลักษณะพืชตัวเล็กสีเขียวไม่มีรากและใบขนาดเพียง 1 มม.มีชื่อเรียกแตกต่างกันเช่น ผำ ไข่ผำ ไข่ผำน้ำ ไข่แหน สามารถแพร่พันธุ์ได้เร็วแค่สองวันก็สามารถขยายได้สองเท่า เก็บได้ทุกสองสัปดาห์ รสชาติจืดมัน คนและสัตว์กินได้ มีโปรตีนและเบต้าแคโรทีนสูง ใช้รักษาอาการท้องผูกและรักษาภาวะซีด มีคุณค่าทางโภชนาการสูงจนเป็น"ซูเปอร์ฟูด"(Superfood)เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนทดแทนชั้นเยี่ยมเพราะกิน 1ได้ประโยชน์ถึง 3 คือ 1.มีโปรตีนสูง 2.มีโอเมกา 3 และ 6 สูง และ 3. มีคลอโรฟิลล์สูง ผำเป็นแหล่งของโปรตีนสูงมากถึง 40% อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น เหล็ก แคลเซี่ยม สังกะสี ช่วยเสริมกระดูก การไหลเวียนโลหิตและเพิ่มภูมิคุ้มกัน มีวิตามินบี 12 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท อีกทั้งย่อยง่าย ไฟเบอร์สูง ดีต่อระบบการย่อยอาหารเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
การจำหน่ายสั่งซื้อที่เพจของโครงการทหารพันธุ์ดี และ มีการสั่งทางออนไลน์ด้วย สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ โครงการทหารพันธุ์ดีค่ายสุรศักดิ์มนตรี โทร.095-451-1343 น.ส.วิไลวรรณ(นุ่น).
วินัย บุญมีพิสุทธิ์/ลำปาง รายงาน.
แสดงความคิดเห็น