เมื่อเวลา 21.36 น.วันที่ 9 ตุลาคม 2567 กลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ. หนองปรือ รวมทั้งนัดรวมตัวกันมาร้องทวงความยุติธรรม หลังทั้งหมดได้นำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ไปจอดจำนำกับนายทุนใช้ชื่อเฟสบุ๊ค เถ่าแก่น้อย ไรทาโร่ แต่ภายหลังจะไถ่ถอนรถคืน กลับไม่ได้รับรถคืนดังที่ใจหวัง โดยเจ้าตัวนายทุนรายนี้พยายามบ่ายเบี่ยง สุดท้ายก็ขาดการติดต่อไป บางรายได้คืนเงินต้นแล้ว แต่กลับไม่ได้รถคืนเช่นกัน
    โดยรายแรกคือนายจักรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ให้ข้อมูลว่าตนเองนั้นนำรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส ไปจำนำกับนายทุนรายนี้ เพราะมีความจำเป็นจะต้องนำมาจ่ายค่าเช่าห้อง และไม่อยากเป็นภาระใคร โดนนำรถไปจอดจำนำได้เงินมาเพียง 12,000 บาท จนถึงสิ้นเดือนได้ติดต่อขอไถ่ถอนรถคืน พร้อมทั้งโอนเงินต้นพร้อมดอก คืนให้กับนายทุนรายนี้ แต่เมื่อ ถึงเวลานัดรับรถคืน ก็ไม่สามารถติดต่อนายทุนรายนี้ได้ ซึ่งตนเองต้องมาทนเป็นหนี้ ผ่อนกุญแจรถสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
   ส่วนอีกรายอาชีพขับโบลถ์ เล่าว่า ตนเองได้ทำรถไปจำนำกับนายทุนคนเดียวกันเป็นรถยนต์เก๋ง ในราคา 16,000 บาท ตนเองจ่ายดอกตลอดทุกเดือน จนกระทั่งถึงวันที่นัดจะคืนเงินกู้ยืมทั้งหมด เพื่อนำรถกลับมาประกอบอาชีพ นายทุนพยายามพูดจาหวานล้อมให้โอนเงินให้ก่อน แต่ตนเองนั้นไม่ยอมขอได้รถและจ่ายคืนเท่านั้น จนภายหลังตัวนายทุนกลับบอกว่าตนเองไม่ มีสิทธิ์จะไถ่รถคืนแล้วเนื่องจากขาดส่งดอก สร้างความพอใจให้กับตัวเองเป็นอย่างมากทั้งที่ตนเองตนเองพยายามติดต่อขอรับรถคืน จนกระทั่งตัวนายทุน แจ้งว่ารถตนเองได้ขายทอดตลาดไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ตนเองนั้น ไม่มีรถที่จะใช้ประกอบอาชีพได้อีก
     ส่วนอีกรายคือ(ขอสงวนชื่อนามสกุล) เปิดเผยว่าตนเองนั้นเป็นเพื่อนกับนายทุนรายนี้มาตั้งตั้งแต่ยังเด็ก กระทั่งมาวันนึงตนเองเดือดร้อนต้องใช้เงิน จึงนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อเวสป้า ไปจำนำไว้ในราคา 20,000 บาท แต่เมื่อถึงวันที่จะต้องไถ่ถอน นายทุนซึ่งเป็นเพื่อนรักสมัยเด็ก กลับไม่สามารถนำรถกลับมาคืนได้ จนตัวเองมารู้ภายหลังว่าเพื่อนก็มีพฤติกรรมเช่นนี้กับลูกหนี้รายอื่นเช่นกัน ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าเพื่อนจะทำกันได้ลงคอ

      อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. หนองปรือได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายทุกรายแล้ว ด้าน พ.ต.ท.สมชนก ฟักไพโรจน์ รองผกก.สส.สภ.หนองปรือ หลังทราบเรื่องจึงได้รวบรวมรายชื่อและหลักฐานของลูกหนี้ทั้งหมด พร้อมยืนยันกับผู้เสียหายหากพบข้อกระทำผิดจริง จะติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน หากแม้นายทุนรายนี้จะหลบหนีก็คงจะต้องหลบหนีไปตลอดชีวิต





ภาพ/ข่าว ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

แสดงความคิดเห็น