Top News/ข่าวยอดนิยม

Recent News/ข่าวล่าสุด

กาญจนบุรี – คืบหน้า...ทึ่งผู้พิการแห่ออกไปใช้สิทธิ์จำนวนมาก!! เลือกตั้งเขต 4 คึกคัก ชาวบ้าน ผู้สูงอายุ ผู้พิการที่เคยติดเตียง ยังแห่ไปใช้สิทธิ์ต่อเนื่อง ผู้การตำรวจเผยเหตุการณ์โดยรวมยังปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศคืบหน้า...การใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 ของจังหวัดกาญจนบุรี แทนตำแหน่งที่ว่าง ปรากฏว่าบรรยากาศการใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นไปอย่างคึกคัก โดยที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเลาขวัญ ตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี มีประชาชน ทุกเพศทุกวัย ทั้งผู้สูงอายุ และผู้พิการที่ต้องนั่งรถเข็น เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันอย่างคึกคัก ซึ่งทางหน่วยเลือกตั้ง มีรถวีลแชร์พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครนักศึกษาวิชาทหาร คอยอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุและผู้พิการที่เดินเองไม่สะดวก ด้วยการพาขึ้นรถเข็นและช่วยพาเข้าไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนจนเสร็จเรียบร้อย ไม่ค่อยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ ขนาดเลือกตั้งพร้อมทั่วประเทศยังไม่เคยพบเจอผู้พิการออกไปใช้สิทธิ์มากเช่นครั้งนี้ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 11.30 นาฬิกา พลตำรวจตรีพศวีร์  เรืองภู่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบหน่วยเลือกตั้งที่ 1 และ 2 ภายในพื้นที่
ที่ว่าการอำเภอเลาขวัญ พบว่าบรรยากาศการเดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งของประชาชนค่อนข้างคึกคักอย่างเห็นได้ชัด โดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีกล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงของการหาเสียงจนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งในวันนี้ ยังไม่ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเข้ามาแต่อย่างใด ซึ่งทางตำรวจได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีชุดเคลื่อนที่เร็วคอยตรวจสอบและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตั้งแต่ช่วงหาเสียงจนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งในวันนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีการแข่งขันที่ค่อนข้างดุเดือดระหว่างผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามยังคงไม่พบการกระทำความผิดขณะที่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พื้นที่ที่มีการจัดเลือกตั้งทั้ง 4 อำเภอของเขตเลือกตั้งที่ 4 นั้น พบว่ามีประชาชนเดินทางมา ใช้สิทธิ์การเลือกตั้งกันอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวของผู้ใช้สิทธิ์
ข่าวภูมิภาค / ปรีชา  ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดกาญจนบุรี///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าว 77 จังหวัด

กาญจนบุรี - จับอีก 162 แรงงานเถื่อนซุกป่ารอรถมารับมุ่งหน้าทำงานในหลายจังหวักรวมถึงมาเลเซีย สุดท้ายโดนรวบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ 19 ต.ค.68 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี และนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบกลุ่มบุคคลเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าท้องที่บ้านหินแหลม หมู่ 5 ต.ท่าขนุน  อ.ทองผาภูมิ คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายหลังจากได้รับแจ้งจึงร่วมสั่งการให้นายอัฐพล สามแสน ปลัดอาวุโส นายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายยงยุทธ แสวงสุข ปลัดอำเภอทองผาภูมิ นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอทองผาภูมิที่ 9 นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบยังจุดที่ได้รับแจ้งเมื่อไปถึงพบกลุ่มแรงงานเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าจริง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณเรียกให้ทุกคนออกมาจากป่าเพื่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่

ซึ่งทุกคนยอมออกจากป่าแต่โดยดี นับได้ทั้งหมด จำนวน 162 คน เป็นชาย 94 คน หญิง 57 คน เด็กและเยาวชนทั้งชายหญิงอายุระหว่าง 15-18 ปี จำนวน 11 คนจากการสอบถามกลุ่มแรงงานผ่านล่าม เบื้องต้นให้การว่าพวกตนหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่อทางธรรมชาติตามแนวชายแดนด้านอำเภอสังขละบุรี เมื่อหลบด่านตรวจมาได้มีรถมารับไปลงเรือ จากนั้นไปขึ้นฝั่งในเขตพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ เมื่อขึ้นฝั่งมาได้มีคนขับรถยนต์มารับแล้วทยอยนำไปพักคอยภายในป่าตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00-22.00 น.ของคืนที่ผ่านมา จากนั้นคนขับรถบอกให้รออีกประมาณ 5 ชั่วโมง จะมีรถมารับไปส่งที่จัดพักคอยในเขตพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี หลายคนต้องการเดินทางไปทำงานในหลายพื้นที่ เช่น จ.สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร ชลบุรี   พระนครศรีอยุธยา สงขลา รวมถึงต้องการข้ามชายแดนประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซีย โดยเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าคนละ 20,000-24,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง ระหว่างรอคนมารับก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อนหลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวภูมิภาค / ปรีชา  ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดกาญจนบุรี///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด




นครนายก - ทุกก้าวมีความหมาย การแข่งขันวิ่งขุนด่าน มาราธอน 2025 ครั้งที่ 6 ชิงรางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

วันที่ 19 ตุลาคม 2568 ที่เขื่อนขุนด่านปราการชล ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก การแข่งขันวิ่ง “ขุนด่านมาราธอน 2568' ครั้งที่ 6 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดนครนายก โดยมีนายธนวัฒน์ ปิ่นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เป็นประธานในพิธีเปิดฯ โดยมีคุณไอริณทร์ อมรสินศิรรัฐ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯจังหวัดนครนายก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันวิ่งขุนด้านมาราธอน 2025  พร้อมด้วยหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก, ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนขุนด่านปราการชล ปลัดจังหวัดนครนายก อำเภอเมืองนครนายก วัฒนธรรมจังหวัดนครนายก
สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดนครนายก ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก บริษัท เรคเรช สปอร์ต จำกัด และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ร่วมจัดการแข่งขันวิ่งขุนด่านมาราธอน 2568' การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Every Step Has A Story ทุกก้าวมีความหมาย” มี วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและ กระตุ้นให้เกิดการพักค้างในพื้นที่ พร้อมนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ Marathon (42.195 กม.), Half Marathon (21.10 กม.) และ Mini Marathon (10 กม.)สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครนายก ได้เปิดเผยถึงแนวทางการยก ระดับงานวิ่งขุนด่านมาราธอน สู่มาตรฐานสากลต่อไป
สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่//ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดจังหวัดนครนายก///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด





กาญจนบุรี – บรรยากาศคึกคักตามหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ 4 อำเภอ ทั้งเขต 4 มีประชาชน มีทั้งผู้ป่วยติดเตียงยังเดินทางไปหย่อนบัตรลงคะแนน โชคดีที่ไม่มีฝนตก

วันนี้ 19 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งไปเตรียมพร้อม และก็มีประชาชนไปรอใช้สิทธิ์กันแต่ก่อนเปิดหีบลงคะแนน การใช้สิทธิ์ครั้งนี้พบมีประชาชนหนุ่มสาว สูงอายุ รวมถึงที่ป่วยติดเตียงได้เดินทางไปใช้สิทธิ์หย่อนบัตรลงคะแนนกันอย่างคึกคักแต่เช้า สำหรับหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ 4 เขต มีจำนวนทั้งสิ้น 254 หน่วยเลือกตั้ง โดยผู้อำนวยการดูแลหน่วยเลือกตั้งคาดว่าการนับคะแนนหลังปิดหีบลงคะแนนน่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการไม่เกิน 21.00 น. และบรรยากาศผู้สมัครทั้ง 2 เบอร์ ได้เปิดบ้านเป็นสถานที่รับฟังการนับคะแนน โดยเบอร์ 1 เปิดบอลรูม ที่บ้านหนองขาว อำเภอท่าม่วง ล่าสุดทราบว่านายอนุทิน จะเดินทางไปร่วมรับฟังที่บ้านสวนแห่งนี้ด้วย ส่วนเบอร์ 2 เปิดบอลรูมที่สำนักงานลานมันอำเภอห้วยกระเจา โดยทั้ง 2 แห่ง ได้จัดเตรียมพื้นที่ตั้งจอ LED ขนาดใหญ่ ให้ประชาชนไปรับฟัง โอกาสนี้นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่โรงเรียนอนุบาลวัดเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้ง ในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 จังหวัดกาญจนบุรี แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งในเขตเลือกตั้งที่ 4 ของจังหวัดกาญจนบุรีนี้ มีผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งจำนวน 2 ราย คือ ผู้สมัครหมายเลข 1 นางสาววิสุดา วิเชียรศิลป์ ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย และผู้สมัครหมายเลข 2 พลเอกชินวัฒน์ แม้นเดช ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยโดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้
เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งพร้อมคณะ ได้สังเกตการณ์ การเปิดลงคะแนนและการลงคะแนนเลือกตั้ง 2 ครั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานประจำหน่วยเลือกตั้ง พร้อมทั้งมีการเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทุกคนอย่างเต็มที่ โดยพบว่าบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า มีประชาชนเดินทางทยอยมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าตลอดทั้งวัน จะมีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่องนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อเป็นการสังเกตการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 4 ของจังหวัดกาญจนบุรี แทนตำแหน่งที่ว่างลง ซึ่งในเขตเลือกตั้งที่ 4 นี้ มีพื้นที่ในเขตเลือกตั้งจำนวน 4 อำเภอ มีหน่วยเลือกตั้งจำนวน 254 หน่วย และมีประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 133,100 คน ซึ่งสถานการณ์การแข่งขัน ระหว่างผู้สมัครทั้งสองคนเป็นไปอย่างเข้มข้น แต่ก็ยังคงอยู่ในกรอบและกฎกติกา คาดว่าการเลือกตั้งในวันนี้น่าจะผ่านไปได้อย่างเรียบร้อยโดยไม่มีปัญหาใดๆ เส้นทางคณะกรรมการการเลือกตั้งตั้งเป้าเอาไว้ว่าในวันนี้จะมีผู้เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งไม่น้อยกว่า 60% ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด โดยหลังปิดทีมเลือกตั้งในเวลา 17:00 นาฬิกา จะให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งแต่ละหน่วยทำการปิดห*บนับคะแนนทันทีคาดว่าจะสามารถรู้ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการได้ภายในเวลาไม่เกิน 21.00 นาฬิกาของวันนี้อย่างแน่นอนเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งอย่างได้กล่าวต่ออีกว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการหาเสียงการเลือกตั้งเข้ามาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องที่เป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมา ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และส่งทีมงานเฝ้าติดตามข่าวสารและสถานการณ์ ในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้สมัครทั้งสองฝ่ายและให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุดโดยในช่วงเช้าก่อนมีการเปิดหีบลงคะแนน ทางเลขา กกต.กลาง พร้อมด้วยคณะประกอบด้วยศาสตราจารย์สันทัด  ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง นายอัฒษไธค์  รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ที่ปรึกษาประจำ กกต. ร้อยตำรวจเอกพงศ์บัณฑิต  ปิ่นสุวรรณ ผอ.กกต.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี นายวีระ   หิรัญกุล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 4 รวมถึงผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร่วมกันปล่อยและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามและสังเกตการณ์เพื่อความเรียบร้อย..สำหรับผู้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง มี 2 คนประกอบด้วย นางสาววิสุดา วิเชียรศิลป์ หรือ “ดรีม”พรรคภูมิใจไทย (ภท.)เบอร์ 1 และ พล.อ.ดร.ชินวัฒน์ แม้นเดช หรือ “บิ๊กเลน”จากพรรคเพื่อไทย (พท.) เบอร์ 2ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 มีมีผู้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 133.100 คน มีหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 254 หน่วยเลือกตั้ง ดังนี้1.อำเภอเลาขวัญ มีหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 87 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 46,650 คน แยกเป็น 1. ต.เลาขวัญ มี 13 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 5,800 คน 2. ทต.เลาขวัญ มี 4 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 2,122 คน 3. ต.หนองโสน มี 12 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 6,602 คน 4. ต.หนองปลิง มี 14 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 7647 คน 5. ต.หนองนกแก้ว มี 9 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 4,877 คน 6. ต.ทุ่งกระบ่ำ มี 10 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 5,458 คน 7. ต.หนองฝ้าย มี 8 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 4,531 คน 8. ทต.หนองฝ้าย มี 2 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 1,697 คน 9. ต.หนองประดู่ มี 15 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 7,916 คน2.อำเภอบ่อพลอย (ยกเว้น ต.หนองกุ่ม) มี 64 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด
จำนวน 33958 คน แยกเป็น 1. ต.บ่อพลอย มี 13 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 5,775 คน 2. ทต.บ่อพลอย มี 10 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 5,437 คน 3. ต.หนองรี มี 8 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 3,584 คน 4. ทต.หนองรี มี 4 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 1,784 คน 5. ต.หลุมรัง มี 12 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 7,385 คน 6. ต.ช่องด่าน มี 11 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 6,229 คน 7. ต.หนองกร่าง มี 6 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 3,764 คน
3.อำเภอห้วยกระเจา มีทั้งหมด 51 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 27,552 คน แยกเป็นดังนี้ 1. ต.ห้วยกระเจา มี 14 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 7,396 คน 2. ต.วังไผ่ มี 6 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 3,711 คน 3. ต.ตอนแสลบ มี 19 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 10,038 คน 4. ต.สระลงเรือ มี 12 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 6,407 คนและ 4.อ.หนองปรือ มี 52 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 24940 คน แยกเป็นดังนี้ 1. ต.หนองปรือ มี 23 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 10,818 คน 2. ต.หนองปลาไหล มี 14 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 5,086 คน 3. ต.สมเด็จเจริญ มี 10 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 5,387 คน และ 4. ทต.หนองปรือ มี 5 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 3,649 คน
ข่าวภูมิภาค / ปรีชา   ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัด
กาญจนบุรี///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด




ลิงเขาน้อยและเขาตังกวน รวมทั้งนกพิราบ เริ่มขาดแคลนอาหาร หลังจังหวัดสงขลามีฝนตกทุกวัน

นื่องจากภาคใต้ฝั่งตะวันออกกำลังจะเข้าสู่ฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชนไม่เข้ามาให้อาหารลิง จนลิงต้องไปคุ้ยเขี่ยเศษอาหารที่ทิ้งแล้ว  เก็บมากินใหม่อีกครั้งประทังความหิว อีกทั้งเสี่ยงต่อการถูกรถชนขณะวิ่งข้ามถนน วอนผู้ใจบุญในช่วงฝนตกนำอาหารไปให้ลิงและนกกินจะได้กุศลแรงในช่วงนี้ ภาคใต้ฝั่งตะวันออกกำลังจะเข้าสู่ฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว จังหวัดสงขลามีฝนตกลงมาตลอดเกือบทุกวัน ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวน้อยลง อีกทั้งชาวสงขลาเองเมื่อฝนตกจะไม่อยากออกจากบ้าน ส่งผลให้ลิงเขาน้อยและเขาตังกวนจำนวนมากรวมทั้งนกพิราบ เริ่มขาดแคลนอาหาร  โดยเฉพาะลิงต่างนั่งรออาหารจากนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา หากมีนักท่องเที่ยวนำอาหารมาให้ จะตรูเข้าไปขออาหารจากมือเลยทีเดียวด้วยความหิวที่ผ่านมาจะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาขึ้นลิฟท์ตรงบริเวณเชิงเขาน้อยและเขาตังกวน ซึ่งมีลิงลงมาหาอาหารกินจำนวนมาก ซื้ออาหารให้ลิงกิน รวมทั้งผู้ใจบุญในจังหวัดสงขลาด้วย
เมื่อจังหวัดสงขลากำลังจะเข้าสู่ฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตก ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวน้อยลงและประชาชนไม่นำลูกหลานมาดูลิงและซื้ออาหารให้ลิงกิน เพราะไม่ต้องการเปียกฝนอาจทำให้บุตรหลายเจ็บป่วยได้  ส่งผลให้ฝูงลิงจำนวนมากและฝูงนกพิราบขาดแคลนอาหาร อีกทั้งแม่ค้าที่นำอาหารมาขายก็ขายไม่ได้ เพราะฝนตกไม่มีคนเข้ามาซื้อ  ทำให้ขาดรายได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งฝูงลิงต้องวิ่งข้ามถนนไป-มา อยู่ตลอดเวลา เสี่ยงต่อการถูกรถชนเป็นอย่างมากในวันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางพาครอบครัวมาท่องเที่ยวที่จังหวัดสงขลาซึ่งสามีเป็นชาวต่างชาติ มาซื้ออาหารให้ลิงกินทั้งกล้วย ข้าวโพดและถั่วอย่างเต็มที่ รวมทั้งซื้อให้นกพิราบกินด้วยฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลลิงให้มากกว่านี้อย่าให้มันอดอยาก  หางบเลี้ยงดูมัน เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นสีสันให้กับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลามานาน และควรที่จะหาอาหารให้ลิงกินตอบแทนบุญคุณลิงและนกบ้าง โดยเฉพาะเทศบาลนครสงขลา ช่วยจัดงบจัดหาอาหารให้ลิงกินทุกวันคิดว่าคงไม่มากมายอะไร แถมยังได้บุญได้กุศลดีกว่าให้ลิงเที่ยวคุ้ยหาอาหารที่เหลือกินตกอยู่ตามพื้นถนน นำมากินใหม่ 
/////นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดสงขล///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด





ตำรวจป่าโมกลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยและผู้ป่วยติดเตียง มอบน้ำดื่ม-ไข่ไก่สร้างขวัญกำลังใจ

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2568 เวลา 12.45 น. ที่พื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.กิตติ สกุณี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง

นำโดย พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรป่าโมก

พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธวัชชัย จันปุ่ม สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ป่าโมก

เจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ สายตรวจตำบลโผงเผง และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3

ร่วมกันลงพื้นที่เยี่ยมเยือนประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมถึงผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ได้พบปะพูดคุย สอบถามสารทุกข์สุขดิบ และมอบน้ำดื่มพร้อมไข่ไก่แก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น รวมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า การออกตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้ชิดประชาชน และให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในทุกโอกาส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความอบอุ่นใจให้แก่พี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น ประชาชนในพื้นที่ต่างกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ทอดทิ้ง พร้อมร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก สะท้อนภาพลักษณ์ “ตำรวจไทย ห่วงใยประชาชน” อย่างแท้จริง



 ภาพ-ข่าว อภิวัฒน์ กุลคำ/อ่างทอง0937863999

ลำพูน - เปิดโครงการอบรม "ปั๊มให้เป็น ช่วยให้รอด" หลักสูตรการปฐมพยาบาลฉุกเฉิน และขั้นพื้นฐาน

ปลัดจังหวัดลำพูน เปิดโครงการอบรม "ปั๊มให้เป็น ช่วยให้รอด" หลักสูตรการปฐมพยาบาลฉุกเฉิน และขั้นพื้นฐาน(Emergency First Aid and Basic Life Support Training Course)
เมื่อวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2568 เวลา 13 นาฬิกา 30 นาที ที่ศูนย์การค้าแจ่มฟ้าช้อปปิ้งมอลล์ ลำพูน นายปรีชา  สมชัย ปลัดจังหวัด(ปจ.)ลำพูน เป็นประธานพิธีเปิดโครงการอบรม "ปั๊มให้เป็น ช่วยให้รอด" หลักสูตรการปฐมพยาบาลฉุกเฉิน และขั้นพื้นฐาน(Emergency First Aid and Basic Life Support Training Course) โดยศูนย์การเรียนรู้การปฐมพยาบาลฉุกเฉินและการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน บริษัท โรงพยาบาลหริภุญชัย เมโมเรียล จำกัด โดยมีนายแพทย์ ศักดิ์สิทธิ์  บ่อแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ลำพูน, นายแพทย์ วัชระ  สนธิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลหริภุญชัย เมโมเรียล จำกัด, นางอัญเชิญ  วงค์มณีรุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แจ่มฟ้า เซฟมาร์ท จำกัด, โรงเรียนจักรคำคณาทรลำพูน, โรงเรียนรพีเลิศพิทยา ร่วมโครงการดังกล่าว
กิจกรรมภายในงานมีการศึกษาเรียนรู้ และการฝึกปฏิบัติให้กับผู้รับการอบรม ประกอบด้วย การศึกษาเรียนรู้การกู้ชีพขั้นพื้นฐาน(Cardiopulmonary Resuscitation(CPR)) และทักษะการใช้เครื่อง เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ(Automated External Defibrillator(AED)), การศึกษาการปฐมพยาบาลฉุกเฉิน(Emergency First Aid), การศึกษาเรียนรู้การกู้ชีพขั้นพื้นฐาน CPR เด็กและทารก, การศึกษาเรียนรู้การปฐมพยาบาลแก้ไขทางเดินหายใจอุดตัน(Choking) ในผู้ใหญ่ เด็ก และ ทารก และ การเรียนรู้สิทธิ์ฉุกเฉิน(Universal Coverage for Emergency Patients(UCEP))..









กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน