Top News/ข่าวยอดนิยม

Recent News/ข่าวล่าสุด

พบยาบ้า50000เม็ดอำเภอวังจันทร์ระยอง

    เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ภายหลังที่นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง สั่งการให้ ทุกอำเภอกวดขันจับกุมกวาดล้างยาเสพติดและอบายมุขต่างๆทำให้นักค้ายาต่างหวาดผวากับเจ้าหน้าที่ที่เอาจริงเอาจัง

  จนช่วงบ่ายที่ผ่านมานายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอวังจันทร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอวังจันทร์เจ้าหน้าที่ตำรวจสภวังจันทร์ รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบถุงสีดำปิดวางอำพรางไว้ริมถนนในซอยตำบลบ้านป่ายุบในอำเภอวังจันทร์
 พลเมืองดีแกะดูด้วยความสงสัยจึงพบว่าวัตถุที่ห่อหุ้มคล้ายยาเสพติดจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบหลังจากเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบพบว่าสิ่งที่ชาวบ้านพบเป็นยาเสพติดประเภทยาบ้าห่อหุ้ม กระดาษพันด้วยพลาสติกอย่างแน่นหนาจำนวน 5 กล่องเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดดูพบว่าเป็นยาบ้านับแล้วรวม 50,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดมายังที่ทำการอำเภอวังจันทร์และตรวจสอบอย่างละเอียดพื้นที่ข้างเคียงไม่พบว่ามีบ้านเรือนอาศัยคาดว่าผู้ก่อเหตุระแวงเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบตรวจค้นในบ้านพักจึงเอามาซ่อนไว้ป่าข้างทางบังเอิญพลเมืองดีมาพบเสียก่อนเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวนก่อนที่จะสืบสวนขยายผลหาที่มาของยาเสพติดเพื่อจับกุมและสืบสวนที่มาของยาเสพติดต่อไป







   สมนึก กรมภักดิ์ บก.ข่าวภูมิภาค

เก็บหอมรอมริบแท้ๆ! โจรใจบาปลักสร้อยทองจากกระเป๋าผ้า กลางบ้านใน ต.บ่อสวก จ.น่าน

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น. พ.ต.ท.สำราญ วงศ์ไชยา สารวัตรสอบสวน สภ.เรือง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ว่าเกิดเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 195 หมู่ 6 บ้านต้าม ตำบลบ่อสวก อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายคือ นางมอญ (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี อยู่บ้านหมู่ 3 ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ให้การว่าในช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ตนได้วางตลับใส่สร้อยคอทองคำไว้ในกระเป๋าผ้าบนเก้าอี้ในบ้าน โดยมี

• สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น

• สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท อีก 1 เส้น

จากนั้นตนได้เข้าไปในห้องน้ำ แต่ได้ยินเสียงเก้าอี้มีการกระแทกผิดปกติ จึงรีบออกมาดู พบว่าสร้อยทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น มูลค่าประมาณ 26,400 บาท ได้หายไป ส่วนเส้นอื่นยังอยู่

เบื้องต้นผู้เสียหายไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของผู้ใด ทางพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บันทึกภาพ และวาดแผนที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวน จากนั้นได้กลับมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 เจ้าหน้าที่ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการเก็บรักษาทรัพย์สินมีค่า โดยเฉพาะทองคำหรือเงินสด ที่อาจตกเป็นเป้าของมิจฉาชีพที่อาศัยจังหวะเผลอเพื่อก่อเหตุ


ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น  จ.น่าน
 

โครงการ “การพัฒนาเครือข่ายชุมชนการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรเพื่อลดจุดความร้อน (Hot spot) และฝุ่นละออง PM2.5 ในจังหวัดน่าน” ลงพื้นที่พัฒนาแนวทางลด PM2.5 ผ่านการเพาะเห็ดเศรษฐกิจ เวียงสา – 10 กรกฎาคม 2568 โครงการ

“การพัฒนาเครือข่ายชุมชนการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรเพื่อลดจุดความร้อน (Hot spot) และฝุ่นละออง PM2.5 ในจังหวัดน่าน” จัดกิจกรรมลงพื้นที่ ณ บ้านผาเวียง ตำบลส้าน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยส่งเสริมการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้เพาะเห็ดเศรษฐกิจ เช่น เห็ดฟาง และ เห็ดโคนน้อย แทนการเผาทิ้งในไร่นา ซึ่งเป็นต้นเหตุของฝุ่น PM2.5

กิจกรรมนำโดย ผศ.แสงแก้ว คำกวน ผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ดเศรษฐกิจ (ข้าราชการบำนาญ) ผศ.ดร.เอกชัย ดวงใจ หัวหน้าโครงการ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน

โครงการได้รับการสนับสนุนโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) มีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 40 ราย  ภายในกิจกรรม มีการถ่ายทอดความรู้เชิงปฏิบัติจริง อาทิ การเตรียมวัสดุเพาะจาก ฟางข้าว, เศษข้าวโพด, ใบไม้แห้ง การผสมหัวเชื้อเห็ด การควบคุมความชื้น เทคนิคการดูแลรักษาให้ได้ผลผลิตคุณภาพ

นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำการจัดการวัสดุเหลือใช้อย่างเป็นระบบ เพื่อสร้าง มูลค่าเพิ่ม และเสริม ความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือน

กิจกรรมครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของ แหล่งเรียนรู้ต้นแบบในชุมชน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขยายองค์ความรู้ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของจังหวัดน่าน นำไปสู่การลดปัญหา PM2.5 อย่างยั่งยืน และผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับชุมชนต่อไป








 กัลยา สองเมืองแก่น  จ.น่าน
 

ด่วน! น้ำป่าไหลหลากท่วมผิวทาง ทางหลวงหมายเลข 101 รถเล็กผ่านไม่ได้

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.20 น. จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ส่งผลให้เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมขังบนผิวจราจร บริเวณหน้าป้อมตำรวจทางหลวง ตำบลอ่ายนาไลย บนทางหลวงหมายเลข 101 ตอน สวนป่า – สะพานพญาวัด ช่วง กม.ที่ 328+000 ถึง 328+600

ล่าสุด เวลา 08.10 น. ระดับน้ำวัดได้สูงประมาณ 16 เซนติเมตร รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ มีแนวโน้มระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้หมวดทางหลวงเวียงสา ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแล้วขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางหากเป็นไปได้

สามารถสอบถามข้อมูลจราจรเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

วิเคราะห์สถานการณ์น้ำภาพรวมจังหวัดน่าน (11 ก.ค. 2568)

จากข้อมูลของคลังน้ำแห่งชาติ พบว่ามีปริมาณฝนสะสมในรอบ 24 ชั่วโมง และฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วันในหลายพื้นที่ ได้แก่ อำเภอเวียงสา: ต.ยาบหัวนา, ต.ส้าน, ต.อ่ายนาไลย, ต.ไหล่น่าน, ต.แม่ขะนิง, ต.ปงสนุก, ต.ส้านนาหนองใหม่

อำเภอแม่จริม: ต.น้ำพาง, ต.แม่จริม, ต.หมอเมือง, ต.หนองแดง

อำเภอนาน้อย: ต.สันทะ, ต.เชียงของ, ต.น้ำตก

อำเภอภูเพียง: ต.นาปัง, ต.ม่วงตึ๊ด

อำเภอเมืองน่าน: ต.กองควาย, ต.สะเนียน, ต.บ่อสวก

อำเภอนาหมื่น: ต.นาทะนุง, ต.ปิงหลวง, ต.บ่อแก้ว

ฝนตกสะสมในพื้นที่เสี่ยงเหล่านี้อาจส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำสายหลักและสาขาต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น เช่น ลำน้ำสา, ลำน้ำแม่ขะนิง, ลำน้ำแม่จริม, ลำน้ำว้า, ลำน้ำส้ม, ลำน้ำม่วง, ลำน้ำเกี๋ยน, ลำน้ำสะเนียน ฯลฯ

ประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้ริมน้ำ โปรดเฝ้าระวังระดับน้ำและติดตามประกาศแจ้งเตือนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

สำหรับแม่น้ำน่านที่สถานีวัดน้ำ N1 บริเวณสะพานพัฒนาภาคเหนือ ระดับน้ำยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีแนวโน้มลดลงจากฝนที่เบาลงทางตอนเหนือ

สามารถติดตามสถานการณ์น้ำแบบเรียลไทม์ได้ที่:

• www.thaiwater.net

• www.hydro-1.net











 กัลยา สองเมืองแก่น  จ.น่าน
 

บุรีรัมย์ 2 หนุ่มดื่มส่งท้ายก่อนเข้าพรรษาขี่ จยย.ชนต้นไม้เจ็บสาหัสทั้งคู่ญาติเผยตั้งใจเลิกเหล้า 3 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ท.กษิเดช วงค์โสภา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนต้นไม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย บนถนนสายบ้านประดาจะบก - โคกศรีละคร - ตาเป๊ก หมู่ 3 ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ

เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพจาก อบต.เจริญสุข และอาสากู้ภัยสว่างจรรยาธรรม รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ Honda Wave สีน้ำเงิน ทะเบียน 6 กณ 5592 กรุงเทพมหานคร ล้มอยู่ข้างทาง สภาพรถเสียหายเล็กน้อย แต่ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้สึกตัว

ผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายวิเชียร หรือ “เต๋า” อายุ 31 ปี เป็นผู้ขับขี่ และนายอนุรักษ์  อายุ 38 ปี คนซ้อนท้าย เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาล

สอบถามนางกรรณิกา กุนเที่ยง อายุ 43 ปี ญาติของนายวิเชียร เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ทั้งสองคนได้ร่วมวงดื่มสุรากับเพื่อนประมาณ 4-5 คน ที่บ้านหลังหนึ่งในละแวกใกล้เคียง โดยตั้งใจจะดื่มส่งท้ายก่อนถึงวันพระใหญ่และเข้าสู่ช่วงเข้าพรรษา ซึ่งทั้งคู่ตั้งใจจะเลิกดื่มตลอด 3 เดือนของพรรษานี้

กระทั่งเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ทั้งสองขอออกจากวง โดยบอกว่าจะนำรถจักรยานยนต์ไปเก็บให้ป้าที่อยู่ห่างจากจุดดื่มเพียง 100 เมตร แต่กลับขับออกไปไกลถึงราว 500 เมตร ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว   ทั้งคู่ถูกส่งไปรักษาที่ รพ.เฉลิมพระเกียรติ



      สุรชัย   พิรักษา / บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ “โสภณ” นำจิตอาสาปฏิญาณตนหน้าพระเจ้าใหญ่วัดหงษ์ ไม่เกี่ยวข้องยาเสพติดและงดเหล้าเข้าพรรษา “โสภณ ซารัมย์” นำจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” กว่า 1000 คน ปฏิญาณตน ต่อหน้าองค์พระเจ้าใหญ่ ศักดิ์สิทธิ์ วัดหงษ์ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด และงดเหล้าเข้าพรรษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

(10 ก.ค.68) นายโสภณ  ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ ประธานชมรมคนทำดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เลิกเหล้าเข้าพรรษา รวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติด เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 

ซึ่งชมรมคนทำดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน ร่วมกับอำเภอพุทไธสง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาบุรีรัมย์ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดบุรีรัมย์สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน(อสม.) และนักเรียน ในพื้นที่อำเภอพุทไธสง ร่วมกันจัดขึ้น ที่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ สถานที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่ ศักดิ์สิทธิ์ วัดหงษ์ ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง

โดย นายโสภณ ซารัมย์ พร้อมด้วยนายศักดิ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ นายเสกสรร จันวงษา นายอำเภอพุทไธสง หัวหน้าส่วนราชการ บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จิตอาสา อสม. และนักเรียน จำนวนกว่า 1,000 คน ร่วมประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคล ต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา อีกทั้งสืบสานพระราชปณิธานอันแน่วแน่ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงมีพระราชปรารถนา ให้พสกนิกรมีวิถีการดำเนินชีวิต อย่างมีความสุขสืบไป

 พร้อมกันนี้ นายโสภณ ยังได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และนำผู้เข้าร่วมกิจกรรม จิตอาสา กล่าวคำปฏิญาณตน “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ต่อหน้าองค์พระเจ้าใหญ่ ศักดิ์สิทธิ์ วัดหงษ์ ว่า จะไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด และงดเหล้าเข้าพรรษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยได้ นิมนต์ พระธรรมวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ มาประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับจิตอาสา ที่มาร่วมกิจกรรม “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ครั้งนี้ด้วย 

 นายโสภณ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ชมรมคนทำดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน ร่วมกับอำเภอพุทไธสง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาบุรีรัมย์ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน(อสม.) และนักเรียน ในพื้นที่อำเภอพุทไธสง ร่วมกันจัดขึ้น

โดยได้น้อมนำพระราโชบายของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทนำกำลังจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ต่อต้านไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด และงดเหล้าเข้าพรรษา ต่อหน้าองค์พระเจ้าใหญ่ ศักดิ์สิทธิ์ วัดหงษ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อีกทั้ง เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการทำคุณประโยชน์แก่สังคม ชุมชน และประเทศชาติ และสร้างจิตสำนึกในการต่อต้านไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด และงดเว้นการดื่มสุราในช่วงเข้าพรรษาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว














   สุรชัย   พิรักษา  /บุรีรัมย์