"บิ๊กต๋อง" ปฏิบัติการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด ใช้ยาแรง "ยึดทรัพย์" เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมทั้งควบคุมการลักลอบนำเข้า ยาเสพติดมาในประเทศไทย ด้านภาคอีสานตอนล่าง

   วันที่ 3 ก.พ. 68  ที่ กองบังคับการ สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร ภาค 3  พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 เป็นประธานมอบนโยบายให้กับ ตร.ในสังกัดภูธรภาค 3 ว่า "ตามที่คณะรัฐมนตรี โดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภากำหนดกรอบนโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีนำความปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรี และนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย ร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีมีอิทธิพล และยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยนั้น ผู้ผลิต,ผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ "ยึดทรัพย์" เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมทั้งควบคุมการลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด "Seal Stop Safe" และ Stop & Destroy คือลำลายล้าง  S&D ทำลายขบวนให้สิ้นซาก และตามยึดทรัพย์ทุกราย ตามแนวชายแดน ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน

 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติอย่างเป็นระบบ และขับเคลื่อนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติทุกพื้นที่ Seal Stop Save ตามนโยบายรัฐบาล โดยเมื่อไม่กี่วันทีผ่านมา ได้จับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ๒ คน พร้อมยาบ้าบ้า จำนวน ๔๐๐,๐๐๐ เม็ดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา จับกุมตัว 1 นายสุริยา หรือเหยิน น้อยแก้ว อายุ ๕๒ ปี ที่อยู่ ๓๐๘ ม.๗ ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม

 2 . MISS PHONETHIP SENGMANY อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ แขวงบอลิคำไซ เชื้อชาติลาว สัญชาติลาว พร้อมของกลาง 1 ยาบ้าจำนวน ๑๐ แพค แพคละ ๓ มัด(ประทับตราสัญลักษณ์ Y-๑) มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด แต่ละแพคห่อด้วยถุงพลาสติกใส พันด้วยอภูมิเนียมฟอยล์ รวมยาบ้า ๓๐ มัด (ยาบ้าประมาณ ๖๐,๐๐๐ เม็ด) ๒.ยาบ้าจำนวน ๒๒ แพค แพคละ ๓ มัด(ประทับตราสัญลักษณ์ Y-๑) มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด และยาบ้าจำนวน ๑ มัด แต่ละแพคห่อด้วยถุงพลาสติกใส พันด้วยอภูมิเนียมฟอยล์ รวมยาบ้า ๖๗ มัด (ยาบ้าประมาณ ๑๓๔,๐๐๐ เม็ด)

๓.ยาบ้าจำนวน ๓๔ แพค แพคละ ๓ มัด(ประทับตราสัญลักษณ์ Y-๑) มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด และ

ยาบ้าจำนวน ๑ มัด แต่ละแพคห่อด้วยถุงพลาสติกใส พันด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ รวมยาบ้า ๑๐๓ มัด

(ประมาณ ๒๐๖,๐๐๐ เม็ด) รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ เม็ด

 พฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา ได้จับกุมกลุ่มผู้เสพยาเสพติด และผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสืบสวนขยายผล และได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีขบวนการเครือข่ายยาเสพติดชาวไทยร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลการสืบสวนพบว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ เกี่ยวเนื่องในหลายพื้นที่

 ต่อมาเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า เครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน (จว.นครพนม) มาส่งให้กับผู้ค้ายาเสพติดในพื้นพื้นที่ จว.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันวางกำลังไว้ตามจุดต่างๆ ของพื้นที่เป้าหมายเวลาประมาณ ๑๖.๐๐ น. พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อTOYOTA รุ่นREVO สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน ๓ ฒฬ ๓๙๖๔ กรุงเทพมหานคร ขับขี่เข้ามาหมู่บ้านหนองตะคลอง ม.๗ ต.ตลาด อ.เมือง

นครราชสีมา จว.นครราชสีมา และเข้าไปในชอยจุดที่ชาวบ้านนำขยะมาทิ้งไว้บริเวณป้าต้นธูปธูปและ นายสุริยา หรือเหยิน น้อยแก้ว (ทราบชื่อสกุลจริงภายหลัง) และ MISS PHONETHIP SENGMANY (หญิงชาวลาว ทราบชื่อสกุลภายหลัง) ลงจากรถยนต์กระบะคันดังกล่าว และหยิบสิ่งของบรรจุใส่กระสอบปุยสีเขียว เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าบุคคลทั้งสองนำยาเสพติดมาส่งให้ลูกค้าโดยวิธีการวางไว้ จึงเข้าแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้นรถยนต์กระบะคันดังกล่าว เมื่อนายสุริยาฯ ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้โยนกระสอบปุ้ยสีเขียวที่บรรจุสิ่งของบางอย่างลงไปในบำต้นธูปฤๅษี และพยายามจะหลบหนีแต่ถูกเจ้าหน้าที่ ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ และแจ้งข้อกล่าวหาให้บุคคลทั้งสองทราบว่า "ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามึนหรือยาบ้า)โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทำให้เกิด ผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วโปโดยผ้าฝืนกฎหมาย"

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำกาการสืบสวนขยายผล และตรวจค้นรถยนต์กระบะคันดังกล่าวด้วยเครื่องมือพิเศษเครื่องแสกนเฮล (เครื่องแสกนมือถือ) ตรวจค้นพบ ยาบ้าจำนวน ๒๒ แพคๆ ละ ๓ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด และยาบ้าจำนวน ๑ มัด รวมยาบ้า ๖๗ มัด (ประมาณ ๑๓๓๔,๐๐๐ เม็ด) ซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นปูกระบะ ของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว และพบยาบ้าจำนวน ๓๔ แพคๆ ละ ๓ มัด มัดละ ๒,๐๐๐๐๐๐ เม็ด

และยาบ้าจำนวน ๑ มัด จำนวน ๓๔ แพคๆละ ๓ มัดๆ ละ ๒,๐๐๐ เม็ด และยาบ้าจำนวน ๑ มัด รวม ๑๐๓มัด (ประมาณ๒๐๖,๐๐๐ เม็ด) ซุกช่อนอยู่ใต้ตู้ลำโพงที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังของรถยนต์คันดังกล่าว และได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และนำตัว นายสุริยาฯ และ MISS PHONETHIPฯ พร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.จอหอ จว.นครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่ง บชภ.3 ได้นำเทคโนโลยีมาใช้การสืบสวนขยายผล และจากการซักถามผู้ต้องหาเข้าใจว่าการบรรจุหีบห่อพันด้วยอลูมิเนียมฟอยล์นั้น จะสามารถชุกซ่อนอำพราง ไม่ให้อุปกรณ์เครื่องมือพิเศษเครื่องแลกนเฮล (เครื่องแลกนมือถือ) ตรวจพบได้ แต่ก็ไม่รอดเพราะเราก็มีเครื่องมือเทคโนโลยีเช่นกัน

 นันทวัฒน์ อุ่มพิมาย  นครราชสีมา   

088-3777745