วันนี้ (5 ก.พ. 2568) ชาวบ้านกว่า 300 คน เดินทางมาที่ TkParkยะลา เพื่อเรียกร้องให้ยุติการสร้างประตูระบายน้ำกรงปินัง ซึ่งในวันนี้ (5 ก.พ.68) จังหวัดยะลาได้มีการจัดประชุมปฐมนิเทศโครงการหารือแนวทาง โดยมี นายอำนาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่17 ยะลา และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม เพื่อรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งรอบบริเวณมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
ต่อมากลุ่มชาวบ้านได้เคลื่อนตัวมาบริเวณหน้าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง ศอ.บต. เพื่อแสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยและคัดค้านโครงการประตูระบายน้ำกรงปินัง จ.ยะลา อยู่ในพื้นที่ หมู่ 8 บ้านลือมุ ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา โดยมีรายชื่อผู้ไม่เห็นด้วย จำนวน 1,067 ราย ซึ่งในจำนวนรายชื่อทั้งหมด เป็นประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่ใกล้เคียง นำโดย นาย ซอฮาบูดีน เลาะยะพา ประธานเครือข่ายพิทักษ์สายน้ำปัตตานี ซึ่งได้ระบุเป้าหมายในการยื่นจดหมายว่า เพื่อพิทักษ์ปกป้องชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีการเรียกร้องให้กรมชลประทานยุติการดำเนินโครงการประตูระบายน้ำกรงปินัง และชาวบ้านเห็นว่า จะเป็นการทำลายแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่เป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญของชุมชน ทั้งนี้ โดย ศอ.บต. มี นายเสกสิทธิ์ สวรรยาธิปัติ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นผู้แทนเลขาธิการ ศอ.บต. รับมอบจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว และทั้งนี้ ศอ.บต. จะนำ ข้อเรียกร้องดังกล่าวประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับโครงการประตูระบายน้ำกรงปินัง ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา โดยกรมชลประทาน เป็นโครงการสร้างประตูระบายน้ำ 8 บาน โดยจะมีความกว้าง 88 เมตร สูง 8 เมตร ยาว 80 เมตร กั้นแม่น้ำปัตตานีในพื้นที่กรงปินัง ด้วยงบประมาณ 3,565.52 ล้านบาท มีจุดประสงค์เพื่อบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำปัตตานีโดยเฉพาะพื้นที่ท้ายน้ำเขื่อนบางลางป้องกันปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และเป็นแหล่งน้ำสนับสนุนเพื่อการอุปโภค บริโภคของประชาชนใน จ.ยะลา และพื้นที่ข้างเคียง ล่าสุด รายงานการศึกษาความเหมาะสมและรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการฯ ได้ผ่านความเห็นของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว เมื่อ 15 มี.ค. 2566 และมีแผนจะก่อสร้างในปี 2570
นายซอฮาบูดีน เลาะยะพา เครือข่ายพิทักษ์สายน้ำปัตตานี ให้การสัมภาษณ์ว่า ทางชลประทานเขาบอกว่ามีการกระทำประชาพิจารณ์ทั้งหมด 6 ครั้งด้วยกันเรื่องประชุม แต่ชาวบ้านบอกว่าได้เข้ารวมแค่ครั้งเดียว ซึ่งการเข้าร่วมก็ไม่ได้เชิญจากชลประทานโดยตรงเพียงแค่รู้จากปากต่อปาก และก็ในวันนั้นก็เห็นบอกว่าคือเสียงส่วนใหญ่คัดค้าน แต่ในรายงานบอกว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์บอกเห็นด้วยกับโครงการ จึงเกิดข้อกังวลและก็ 5 ครั้งหลังจากนั้นที่มีการประชาวิจารณ์ที่มีการประชุมชาวบ้านไม่ทราบเลย และก็ตอนนั้นชาวบ้านที่ผมถามเพราะว่ามีหลังจากนั้นไปคัดค้านที่อำเภอแล้ว ชาวบ้านบอกว่าชาวบ้านไว้ใจต่หน่วยงานรัฐเพราะคิดว่า รัฐอาจจะจริงใจจริงจังเคารพเจตจำนงคนในพื้นที่ จนมาปี 2565-2566 นี้อยู่ดีๆ โครงการก็ผ่านมีการเซ็นต์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านก็เลยเริ่มกลับมาตั้งคำถาม กระบวนการทั้งหมดที่ผ่านมามันเป็นธรรมหรือเปล่า เรามีการตั้งคำถามครั้งแรกในวันที่ 25 มิถุนายน ตอนที่ตัวแทนของชลประทานลงมาในพื้นที่ก็ไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์หรือว่าเชิญจากกรมชลประทานโดยตรง เหมือนเดิมคือรู้จากปากต่อปาก ไปยื่นหนังสือหลักการและเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการและก็หลังจากนั้นก็มายื่นหนังสือที่ ศอ.บต และก็สุดท้ายเราไปยื่นที่กรมชลประทานหาดใหญ่ก็คือ ชลประทานที่16 เจ้าของโครงการ ซึ่งก็เหมือนเดิม สุดท้ายก็ชลประทานก็ดำเนินการโดยที่ไม่ได้ฟังเสียงและก็หลักการและเหตุผลที่เราพูด วันนี้พวกเราจึงไปร่วมเวทีที่เขาจัด และเราก็ไม่เห็นด้วยที่เห็นเวทีวันนี้ จึงรวมตัวไปยืนยันจุดเดิมว่าคัดค้าน คนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการด้วยหลักการและเหตุผลตามที่เราเคยยื่นไปแล้วในหนังสือต่างๆพร้อมกับใบรายชื่อแสดงเจตจำนงคัดค้านของคนในพื้นที่ หลังจากนี้เราคิดว่าในพื้นที่ก็จะต้องมีการเคลื่อนไหวตลอด คิดว่าสมมุติว่าชลประทานยังไม่ได้มีการยกเลิกหรือมีการชะลอหรือว่าเริ่มเปิดวงพูดคุยใหม่กับคนในพื้นที่เราคิดว่าเราจะต้องยกระดับในการต่อสู้หลังจากนี้
คทาวุธ แช่ม
0817676385
แสดงความคิดเห็น