จังหวัดแพร่ เป็นพื้นที่เป้าหมายจัดการป่าไม้แบบครบวงจร พัฒนายกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์สร้างเศรษฐกิจไม้แบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลุ่มปลูกป่า กลุ่มผู้ผลิตแปรรูป ไปจนถึงกระบวนการจัดจำหน่ายพัฒนาสู่คุณภาพมาตรฐานสากลภายใต้แนวคิดการลดสภาวะโลกร้อน


ระหว่างวันที่ 15-16 มกราคม 2568 โครงการโลโค่ฟรอเรส local forest ประเทศสวีเดนร่วมกับภาคีความร่วมมือระหว่างประเทศได้แก่ ประเทศเนปาล สปป.ลาว เวียดนาม ไทย เอธิโอเปีย และเครือข่ายใหญ่คือ ประเทศสวีเดน  


กิจกรรมนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568 โครงการ local forest เริ่มที่บริเวณ "บ้านเขียว" ภายในสวนรุกขชาติเชตวัน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ โดยมี นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราช

การจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดโครงการ LoCoForest จังหวัดแพร่ โดยมีนาย เฟรดดริก ซิลเวอร์แบรนด์ Fredrik Silfwerbrand และคณะจากต่างประเทศร่วมพิธีพร้อมทั้ง

ทาง นายปรีชาโตมี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากร

ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ มอบหมาย นายเจษฎา พันสถา นักวิชา

การป่าไม้ชำนาญการพิเศษ

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมด้วย 

และเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 มกราคม 2568 ได้มีการจัดเวทีทำความเข้าใจการพัฒนาโครงการร่วมกันกับคณะกรรมการป่าไม้ยั่งยืนจังหวัดแพร่ที่ห้องประชุมโรงแรม


ธาริต อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ มีการเสนอแนวทางพัฒนาป่าไม้ในส่วนพื้นที่ของทางราชการ โดยมีประชาชนมีส่วนร่วมคือ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ภายใต้การดูแลของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (สปก.) ในเขตอำเภอลอง จังหวัดแพร่ เป็นพื้นที่ส่งเสริมการปลูกไม้สักเริ่มต้น ตามโครงการฯ

พร้อมทั้งการแนะนำกลไกการทำงานซึ่งประกอบด้วยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ผู้ผลิต หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการ และองค์กรพัฒนาเอกชนภายใต้กรอบของคณะกรรมการป่าไม้ยั่งยืนจังหวัดแพร่  

หลังจากนั้นได้มีการแบ่งกลุ่มย่อยระดมปัญหาอุปสรรคแนวทางทิศทางการทำงานเพื่อนำไปสู่การสร้างความเข้าใจและพัฒนาร่วมกันโดยมีทิศ

ทางการยกระดับทั้งคุณภาพสินค้า การแก้ปัญหาภูมิอากาศหรือสภาวะโลกร้อนไปพร้อมๆกัน

ดร.ปิยะพิศ ขอนแก่น อาจารย์ประจำสาขาวิชาจัดการป่าไม้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า การประชุมความร่วมมือภายใต้โครงการ LoCo Forest จากประเทศสวีเดนและภาคีนานา

ชาติครั้งนี้ถือเป็นโอกาสของคนในจังหวัดแพร่ ได้มีส่วนร่วมเข้ามาพัฒนากระบวนการจัดการป่าไม้และการทำอุตสาหกรรมไม้ ห่วงโซ่ product ไม้ในจังหวัดแพร่อย่างครบวงจร ถือเป็นความท้าทายในการต่อยอดโครงการเพื่อพัฒนาอุตสาห

กรรมเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร ตั้งแต่ป่าไม้สู่พิพิธภัณฑ์ที่มีความเป็นมาตรฐานโลกในอนาคต เป็นการท้าทายในการต่อยอดสู่การพัฒนารายได้ประชากรในจังหวัดแพร่ด้วยการสร้างมาตรฐานและนำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายในต่างประเทศได้ 

และนอกจากนั้นยังต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพมีอากาศที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ดังนั้นการทำอุตสาหกรรมไม้ต้องมองเรื่องการผลิตที่มีคาร์บอนต่ำ ผลักดันให้เกิดพื้นที่สีเขียวในจังหวัดแพร่ ตอบโจทย์นโยบายการพัฒนาประเทศและสนธิสัญญานานาชาติในเรื่องของสภาวะโลกร้อน


นายสามชาย พนมขวัญ ประธานคณะกรรมการป่าไม้ยั่งยืนจังหวัดแพร่ โครงการนี้เหมือนมากระตุ้นให้ชาวจังหวัดแพร่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งภาคประชาสังคมมีทิศทางแต่ไม่มีอำนาจไม่มีพลังพอ ดังนั้นเป็นโอกาสที่โครงการนี้จะได้หาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคราชการ ถือเป็นโชคดีที่หน่วยงานในจังหวัดแพร่มีความเข้าใจ จากนี้ไปคงต้องมีเวทีพูดคุยกันต่อการทำไม้อย่างยั่งยืนจะมีแนวทางอย่างไรถือเป็นการบ้านให้กับคณะกรรมการที่มีกลไกร่วมภาครัฐภาคเอกชนคือคณะกรรมการป่าไม้ยั่งยืนของจังหวัดแพร่ ความยั่งยืนทำให้โครงการนี้มิได้เข้ามาส่งเสริมโดยเฉพาะเรื่องของงบประมาณแต่เป็นการกระตุ้นความเข้าใจต้องการความจริงใจ ประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วมีการดำเนินการตามอาเจนด้า 2030 มุ่งทำอุณหภูมิของโลกให้ลดลง 2 องศา ภายในปี ค.ศ 2030 ไปประเทศไทยเมืองแพร่จะเป็นเมืองนำร่องในเรื่องนี้ ซึ่งจะทำได้หรือไม่ถือเป็นโจทก์ เป็นการบ้าน รายการสื่อสารทำความเข้าใจกับคนทั้งจังหวัด โดยเฉพาะคณะกรรมการป่าไม้ยั่งยืนจังหวัดแพร่และเครือข่ายการพัฒนาพร้อมและต้องการคนเข้ามามีส่วนร่วมแนะนำเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแผนงานโครงการต่อไป


ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่ 061-595-5297

แสดงความคิดเห็น