เนื่องใน”วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช”หรือ”วันกองทัพไทย” หรือ”วันยุทธหัตถี” พร้อมจัดงาน”สักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช-กาชาดนองบัวลำภู”ประจำปี 2568  นางรำกว่า 1,000 ชีวิตร่วมใส่ชุดสีชมพูบานเย็นร่วมรำบวงสรวงเพื่อความเป็นสิริมงคล 


เมื่อวันนี้ 18 มกราคม  2568 ที่ บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู นายสุรศักดิ์   อักษรกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนเข้าร่วมพิธีถวายราชสักการะเนื่องในงานวันรัฐพิธี”วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช”หรือ”วันกองทัพไทย” หรือ”วันยุทธหัตถี”  พร้อมประกอบพิธีบวงสรวงสักการะองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช “พระองค์ดำ”เพื่อเป็นการร่วมถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช


ที่พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยวขับไล่อริราชศัตรูตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่าน โดยกระทำการยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กับ พระมหาอุปราชา ที่กลายเป็นภาพลักษณ์ของความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเพื่อสร้างความเป็นเอกราชให้กับชาติไทยเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135  โดยมี หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ รวมทั้ง องค์การภาคเอกชน พ่อค้าประชาชนได้ร่วมกันวางพานพุ่มดอกกุหลาบสด เพื่อสักการะองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ประดิษฐานอยู่บนศาลสมเด็จ เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของชาวหนองบัวลำภู ซึ่งจัดเป็นงานประจำทุกปีสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน 

โดยตั้งแต่เวลา 05.30 น.เป็นต้นมาผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ทั้ง 2 ท่านและหัวหน้าส่วนราชการได้ประกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองนับตั้งแต่พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 อนุสาวรีย์พระวอพระตา ศาลหลักเมือง หอสองนาง และศาลปู่หลุบ ก่อนที่จะมาร่วมกันบวงสรวง สักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ  สนามสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยในปีนี้จังหวัดหนองบัวลำภู ได้จัด “งานสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช”และ งานกาชาดหนองบัวลำภู  ประจำปี 2568 ได้จัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 18-27 มกราคม  2568 ณ สนามสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ครั้งหนึ่งที่ สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ยกกองทัพขึ้นไปช่วยพระเจ้าหงสาวดี ตีกรุงศรีสัตนาคณหุต ได้พาพระนเรศวรราชบุตรไปด้วย 


เมื่อมาถึง บริเวณหนองน้ำแห่งนี้ ที่เรียกว่า หนองบัวลำภู จึงได้มาหยุดพักแรมในพื้นที่บริเวณดังกล่าว พระนเรศวรทรงประชวรเป็นไข้ทรพิษ พระเจ้าหงสาวดีจึงอนุญาตให้กองทัพไทยยกกลับมา ต่อมา เพื่อเป็นรำลึกถึงครั้งหนึ่งที่พระองค์เคยเสด็จมา จึงได้มีการตั้ง ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขึ้น บริเวณริมหนองบัว และได้มีการจัดงานสักการะมาจวบจนถึงทุกวันนี้ และต่อมา เพื่อสืบสานอนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป จึงได้มีการจัดงานสักการะในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นประจำมาอย่างต่อเนื่อง 


นอกจากนั้นยังมี หญิงสาวชาวเมืองหนองบัวลำภู ได้ใส่ชุดสีผ้าพื้นเมืองสีชมพูหรือสีบานเย็น มาร่วมรำบวงสรวงเป็นประจำทุกปี ซึ่งแต่ละคนที่มารำ ต่างเชื่อว่า เมื่อได้มาร่วมรำบวงสรวงองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชแล้ว จะทำให้ชีวิต หน้าที่การงาน การค้า การขาย เจริญก้าวหน้าดี  ซึ่งในปีนี้ ได้มี นางสาวอรอาภา  โลห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู (รอง ผวจ.หนองบัวลำภู หญิง คนแรกของจังหวัดหนองบัวลำภู)ได้มาร่วมรำบวงสรวงกับประชาชนด้วย ซึ่งในแต่ในปีนี้มีผู้ร่วมรำบวงสรวงกันเป็นจำนวนมาก กว่า 1,000 คน 


ด้วยความเคารพสักการะของชาวหนองบัวลำภู และสถานที่แห่งนี้ ยังเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองหนองบัวลำภู ลูกหลานชาวเมืองหนองบัวลำภู ที่จะเดินทางไปต่างพื้นที่ต่างประเทศ  ทำธุรกิจ ไปรบชายแดน การสอบเข้าสู่ตำแหน่งหน้าที่การงาน การสอบเลื่อนตำแหน่ง การสมัครการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับชาติหรือหัวหน้าส่วนราชการที่จะมาทำงาน ย้ายไปต่างพื้นที่  ต่างพากันมาขอพรจาก สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กันด้วยความเชื่อศรัทธา ที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง จะทำให้ สิ่งที่ขอนั้นสำเร็จเป็นพลังใจต่อการทำหน้าที่การงานตามความเชื่อของแต่ละคน และยังได้มีการแสดงโชว์การชนไก่เหลืองหางขาว กีฬาที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงชื่นชอบ อีกด้วย 


นอกจากนั้น ภายในงานยังมี  การออกร้านกาชาด การแสดงและงานแพรพรรณลุ่มภู สู่สากล 2025 ระดับจังหวัด พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์โอทอป การแสดงและจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร กิจกรรมบุญคูณลานก่อเจดีย์ข้าวเปลือก กิจกรรมร้านมัจฉากาชาด ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เหล่ากาชาดจังหวัดหนองบัวลำภู หน่วยงานของสภากาชาดไทยในส่วนภูมิภาค จัดขึ้นเพื่อหารายได้ ช่วยเหลือผู้พิการ ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัยต่าง ๆ ให้มีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงขอเชิญชวนประชาชน ร่วมงาน ในวันดังกล่าว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไประหว่างวันที่ 18-27 มกราคม 2568 ณ สนามสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมืองหนองบัวลำภู





สุภัชรกานต์  แก้วสิงห์ หนองบัวลำภู 



แสดงความคิดเห็น