ที่ห้องสืบสวน  สภ.เมืองสุรินทร์  ตำรวจชุดสืบสวนได้สอบปากคำ นางสาว  เอ(นามสมมุติ)   อายุ 26 ปี  พนักงานร้านจำหน่ายวัสดุแห่งหนึ่ง    ซึ่งได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เมื่อค่ำวานนี้  ว่าตนเองถูกชายสวมไอ้โม่ง ใช้มีดพับ ปล้นจี้บังคับเอาเงินในกระเป๋าตนเองจำนวน 11000 บาท ซึ่งพึ่งกดมาจาก  ตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่ง  หน้าร้านสะดวกซื้อหน้าค่ายวีรวัฒน์โยธิน   พร้อมด้วยมือถือ    ทำเอาตำรวจวิ่นวุ่นทั้งโรงพัก   พ.ต.อ.วีระพันธ์   ณ   ลำปาง  ผู้กำกับการ สภ.เมืองสุรินทร์  ได้รับทราบเรื่อง จึงรีบรายงานเหตุไปยัง  พล.ต.ต.สุคนธ์  ศรีอรุณ  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์    พร้อมสั่งการไปยัง   พ.ต.ท.วัชรพงศ์ พวงบุตร  สารวัตรสืบสวน  พร้อมด้วยชุดสืบสวน   ออกติดตามหาข่าวและตัวคนร้าย    พร้อมนำ นางสาวเอ ไปชี้จุดเกิดเหตุบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน  หลัง มหาวิทยาเทคโนลีราชมงคลอีสาน  ซึ่งคำให้การของนางสาวเอ เริ่มส่อพิรุธ     ตำรวจจึงจัดกำลังชุดสืบสวนอีกชุด ไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ นางสาวเอ   อ้างว่าไปกดเงินจำนวน 11000 บาทออกมา   แต่เมื่อตรวจสอบกับพนักงานจากกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่พบว่านางสาวเอ  ซึ่งอ้างกดเงินออกไป  ไม่มีเลย   จึงนำตัวไปสอบเค้นจนรับสารภาพว่า กุเรื่องขึ้นเอง   เพื่อจะนำใบแจ้งความไปอ้างต่อมารดาของตนเอง  เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าหอพัก  เพราะเงินเดือนที่ออกมาตนเองนำไปจ่ายหนี้นอกระบบจนหมด   จึงพยายามสร้างเรื่องขึ้นมา  จนกระทั่งถูกตำรวจชุดสืบสวนจำไต๋ได้  ก่อน  พนักงานสอบสวนแจ้งความกลับ ในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน  มีความผิดตามมาตรา  172 173 และ 174   ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท  

ผู้สื่อข่าวสอบถาม นางสาว เอ  ซึ่งรับสารภาพที่กระทำลงไป ก็กลับมานอนคิด ว่าตำรวจจะรู้มั้ย จะถูกจับมั้ย   สุดท้ายก็ไม่รอด เป็นอุทาหรณ์ของสาวๆ หรือใครก็ตามที่คิดจะกรุเรื่องสร้างเรื่องขึ้น โดยทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน จากเรื่องที่ไม่เป็นจริง  หรือแจ้งความเท็จ  ต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน

อัศววัฒน์  พัฒน์ทองกนก จ.สุรินทร์  รายงาน



 

แสดงความคิดเห็น