โจ๋ขับรถจักรยานยนต์ไล่และแทงกันทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส ราย(ล่าสุดปลอดภัยแล้ว)  จาก กรณีเมื่อเมื่อเวลา 21.50 น.วันที่ ( 19 ม.ค. 68 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.50 น.ของวันที่ 19 มกราคม 2568 พ.ต.ท.สหภาพ จันทหง่อม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุศรีโผท ว่า มีเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณหน้าร้านหนึ่งโภชนา (ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ป.ต.ท.โรบินสันสุรินทร์)

มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บชาย 1 รายทราบชื่อต่อมาชื่อนายนพดล ผิวงาม(ผู้ได้รับบาดเจ็บ) อายุ 17 ปี มีบ้านพักอาศัยเลขที่ 3/3 ม.16 ต.สลักได อ.เมือง สุรินทร์ ถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บเข้าที่บริเวณช่องท้อง และพบบาดแผลที่บริเวณมือขวารอยบาดจากการแย่งอาวุธมีด

จากการสอบสวนเบื้องตันทราบว่าผู้บาดเจ็บได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบชนิดเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าร้านอาหารหนึ่งโภชนา ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ จากนั้นประมาณ 1 นาที ได้มีกลุ่มวัยรุ่นไม่ทราบชื่อสกุล จำนวน 5-6 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2-3 คัน ไม่ทราบชนิดเข้ามารุมทำร้ายและได้ใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ช่องท้องใส้ทะลักได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนปฐมพยาบาลเบื้องต้นพร้อมกับนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลสุรินทร์พบว่านายนพดล ผิวงาม หรือปอม(ผู้ได้รับบาดเจ็บ)ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่อาคารฉุกเฉิน ชั้น 2 ห้องพักฟื้น พบกับ น.ส วิภาภรณ์ บุญมาก(แม่ผู้ได้รับบาดเจ็บ) อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่ ม16 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนไม่สบายและยังไม่ได้กินข้าว ลูกชายตนจึงออกมาซื้อก๋วยเตี๋ยวให้กับตน ซึ่งลูกชายตนออกมาซื้อก๋วยเตี๋ยวนานมากเลยโทรศัพท์ตามรู้จากกู้ชีพว่าลูกชายตนถูกแทงอาการสาหัส คนตกใจมาก ส่วนสาเหตุตนทราบว่าจากลูกพี่ลูกน้องว่าเมื่อสองวันก่อนเกิดเหตุนั้น ลูกชายตนได้ขับรถจักรยานยนต์กันและได้ไปปาดหน้ากลุ่มผู้ก่อเหตุ จากนั้นก็มีกลุ่มผู้ก่อเหตุได้มาแถวบริเวณที่เกิดเหตุและถามร้านค้าว่ารู้จักคนนี้มั้ย ชื่อนี้มั้ย ซึ่งได้มีการเข้าแชทมาแจ้งผู้ได้รับบาดเจ็บว่าให้เวลา 1 วันถ้าไม่มาเคลียร์กันก็จะจัดให้ และในวันเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้พากันมาขับรถจักรยานยนต์ขับวนไปมาและได้จอดกันเป็นจุด จากนั้นก็เห็นนายนพดล ผิวงาม หรือบอม(ผู้ได้รับบาดเจ็บ) ออกมา ก็ได้เข้ามารุมทำร้ายและใช้อาวุธมีดแทงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลสุรินทร์พบว่านายนพดล ผิวงาม หรือปอม(ผู้ได้รับบาดเจ็บ)ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่อาคารฉุกเฉิน ชั้น 2 ห้องพักฟื้น พบกับ น.ส วิภาภรณ์ บุญมาก(แม่ผู้ได้รับบาดเจ็บ) อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่ ม16 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนไม่สบายและยังไม่ได้กินข้าว ลูกชายตนจึงออกมาซื้อก๋วยเตี๋ยวให้กับตน ซึ่งลูกชายตนออกมาซื้อก๋วยเตี๋ยวนานมากเลยโทรศัพท์ตามรู้จากกู้ชีพว่าลูกชายตนถูกแทงอาการสาหัส คนตกใจมาก ส่วนสาเหตุตนทราบว่าจากลูกพี่ลูกน้องว่าเมื่อสองวันก่อนเกิดเหตุนั้น ลูกชายตนได้ขับรถจักรยานยนต์กันและได้ไปปาดหน้ากลุ่มผู้ก่อเหตุ จากนั้นก็มีกลุ่มผู้ก่อเหตุได้มาแถวบริเวณที่เกิดเหตุและถามร้านค้าว่ารู้จักคนนี้มั้ย ชื่อนี้มั้ย ซึ่งได้มีการเข้าแชทมาแจ้งผู้ได้รับบาดเจ็บว่าให้เวลา 1 วันถ้าไม่มาเคลียร์กันก็จะจัดให้ และในวันเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้พากันมาขับรถจักรยานยนต์ขับวนไปมาและได้จอดกันเป็นจุด จากนั้นก็เห็นนายนพดล ผิวงาม หรือบอม(ผู้ได้รับบาดเจ็บ) ออกมา ก็ได้เข้ามารุมทำร้ายและใช้อาวุธมีดแทงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ได้สั่งการให้ชุดตำรวจสืบสวนออกติดตามและหากล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ก่อนติดตามตัวมาได้ครบเร่งสอบปากคำ

ด้าน พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่าจากกรณีเหตุกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก่อเหตุ ถึงขนาดใช้มีดแทงกันจนได้รับบาดเจ็บสาเหตุ นั้น  ตนเองได้สั่งการไปยัง  พ.ต.อ.วีระพันธ์  ณ ลำปาง  ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์   พร้อมด้วย  รอง ผกก.ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์  นำกำลังติดตามจากกล้องวงจรปิด จนสามารถได้ตัวผู้ก่อเหตุไม่ทันข้ามวัน (ไม่ได้หนีเข้ากรุงเทพฯตามที่บางช่องรายงาน)   เนื่องจากเป็นเหตุที่ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน   โดย ผู้ก่อเหตุวัย  18 ปี (นายทนงศักดิ์  สมดั่งใจ) เสื้อสีเขียว   ราษฏรบ้านโคกเพชร  ตำบลสลักได  อ.เมืองสุรินทร์   กล่าวกับช่อง7HD  ว่า ตนเองใช้มีดพกสั้นของตนเองแทงไป 1 ครั้งเพื่อแก้แค้นให้กับรุ่นน้อง คือนายเก้า(เสื้อสีขาว)  วัย 15 ปี ซึ่งถูกนายบอมทำร้ายก่อน บริเวณแยกไฟแดงเทพธานี    จึงนำเรื่องมาบอกตน  ก่อนตามไปแก้แค้นดังกล่าว เบื้องตน ตั้งข้อหาพยายามฆ่าเอาไว้ก่อน  ส่วนสาเหตุอื่นๆมาจากเรื่องทะเลาะกันขณะขับรถ เท่านั้น ไม่เคยรู้จักกันมาก่อเลย  จึงหวงสถานการณ์วัยรุ่นทุกวันนี้ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหากันโดยไม่ยั้งคิด  ตำรวจอาจจะเพิ่มข้อหาในส่วนของรถที่สภาพแต่งเป็นกลุ่มแว๊นไปด้วย


อัศววํฒน์  พัฒน์ทองกนก  จ.สุรินทร์  รายงาน

 


แสดงความคิดเห็น