วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2567) เวลา 08.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารความเชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุและพักผู้ป่วย 9 ชั้น โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารศูนย์ความเชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุและพักผู้ป่วย 9 ชั้น ณ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า พร้อมด้วยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นางสาวปาณิสรา กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี และแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีเปิดงาน

 อาคารความเชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุและพักผู้ป่วย 9 ชั้น โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าแห่งนี้ ได้รับการออกแบบและก่อสร้างโดยคำนึงถึงมาตรฐานการรักษาพยาบาลฉุกเฉินระดับสากล ประกอบด้วยห้องฉุกเฉินที่ทันสมัย ห้องผ่าตัดฉุกเฉิน หอผู้ป่วยวิกฤต และระบบสนับสนุนการรักษาที่ครบครัน เพื่อรองรับการให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งมีหอผู้ป่วย

ที่พร้อมดูแลต่อเนื่องอย่างทันสมัยและครบครันด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์มาตรฐานระดับสากล เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการอย่างใกล้ชิดภายในอาคารใหม่นี้ ยังมีการติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยกับระบบการแพทย์ฉุกเฉินทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ ซึ่งจะช่วยให้การประสานงานและส่งต่อผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้

ยังมีการจัดสรรพื้นที่สำหรับการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครกู้ชีพ เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ อย่างต่อเนื่อง การเปิดอาคารอุบัติเหตุฉุกเฉินแห่งใหม่นี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในจังหวัดนนทบุรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงที่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น
 อาคารศูนย์ความเชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุ และพักผู้ป่วย 9 ชั้น โรงพยาบาลพระนั่งเกล้านี้ เป็นศูนย์กลางสุขภาพ ที่คอยดูแลสนับสนุนคุณคุณภาพชีวิตด้านสาธารณสุขของประชาชนชาวจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เป็นโรงพยาบาล ศูนย์ชั้นนำในเขตสุขภาพที่ 4 พร้อมการพัฒนาการด้านสาธารณสุขอย่างยั่งยืนให้ประชาชนต่อไป

















ประยงค์  วิลัย /ภาพข่าว
 

แสดงความคิดเห็น