นนทบุรี สุดทน! ชาวบ้านทนกินข้าวดมกลิ่นน้ำเน่า น้ำเสียจากโรงงาน ไหลเข้าบ้านนานกว่า 5 เดือน ร้องหน่วยงานแก้ไข ได้เพียงน้ำหมักชีวภาพและผงกำจัดยุง

     จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ระบุข้อความว่า "ตอนนี้ภายในบ้านผมต.ขุนศรี ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานภาชนะไทยที่เป็นที่พักคนงาน ปล่อยน้ำทิ้ง ไหลเข้ามาภายในบ้านส่งกลิ่นเหม็นทั้งวัน เป็นตอนหลังเกิดยุงเยอะมาก ผมมีลูกเล็กวัย 1 ขวบกว่าๆ มีพ่อกับแม่อยู่พักอาศัยภายในบ้าน นั่งทนกลิ่นเหม็นเวียนหัวมาก ได้ความเดือดร้อนเป็นเวลา 4 เดือนเต็มๆ พอไปแจ้งหน่วยงานให้ช่วยเหลือมาดูกันแล้วให้น้ำชีวภาพมา 2 ขวดเล็กๆ กับทรายกันยุง 3 ถุงเล็กๆ แล้วบอกว่าต้องรอไปก่อน ถึงฤดูหนาวเมื่อไรจะมาดูให้อีกทีว่าแก้ไขอย่างไง... ไม่รู้ว่าให้หน่วยงานไหนมาช่วยผมที"

     วันที่ 5 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านไทรน้อย ต.ขุนศรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกับโรงงาน โดยมีกำแพงกั้น พบน.ส.ยุพาวรรณ วัดอักษร หรือพี่ตุ้ย อายุ 40 ปี เจ้าของโพสต์ดังกล่าว โดยลักษณะพื้นที่หน้าบ้านมีน้ำเสียซึมไหลออกมาจากกำแพงโรงงานหลายจุด และมี 3 จุดที่ไหลออกมาแล้วมารวมกันบริเวณพื้นที่หลังบ้าน จนทำให้ไม่สามารถใช้สอยได้ กลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมขังทั้งหมดนานกว่า 5 เดือน จนน้ำกลายเป็นน้ำเน่าส่งกลิ่นเน่าเหม็นทุกวัน กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ตอนนี้ประสบปัญหาทั้งกลิ่นเหม็นทั้งยุงชุม ร้องไปยัง อบต.ขุนศรีตั้งหลายครั้งก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ โทรไปจนเจ้าหน้าที่รำคาญตัดสายทิ้ง จึงไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อย ก็โยนเรื่องไปให้ อบต.ขุนศรีอีก ล่าสุดเจ้าหน้าที่ อบต.ขุนศรี เข้ามานำน้ำหมักชีวะภาพมาให้ 2 ขวด และผงทรายกำจัดยุงมา 3 ซอง บอกให้รอหน้าหนาวก่อนถึงจะแก้ไขให้

     น.ส.ยุพาวรรณ หรือพี่ตุ้ย เล่าว่า ที่บ้านอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 คน มีเด็กๆและคนแก่อยู่ด้วย ตนเริ่มสังเกตุเห็นว่ามีน้ำซึมออกมาจากกำแพงโรงงานเมื่อประมาณเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งโรงงานดังกล่าวได้ย้ายไปที่ใหม่แล้ว เหลือเพียงที่พักคนงานด้านหลังเท่านั้นที่ยังมีคนอาศัยอยู่ และส่วนใหญ่เป็นคนงานต่างด้าวอาศัยอยู่ประมาณ 30-40 คน แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเดียวก็คงแห้งไปเองแต่ว่าน้ำเริ่มซึมออกมาทุกวันและเป็นน้ำเสีย บางวันน้ำมีสีขาวขุ่นๆ เหมือนน้ำซักผ้าหรือน้ำล้างจานและเริ่มไหลเข้ามาในบ้าน แม่ของตนจึงใช้จอบขุดดินทำเป็นทางระบายน้ำให้ไหลไปทางพื้นที่ว่างด้านหลังบ้านพอเวลาผ่านไปหลายเดือน พื้นที่ด้านหลังบ้านที่เอาไว้จอดรถและจัดงานต่างๆ ถูกน้ำเสียที่ไหลออกมาจากโรงงานทำให้กลายเป็นแอ่งน้ำเสียทั้งหมดไม่สามารถเข้าไปใช้งานพื้นที่ได้และยิ่งส่งกลิ่นเหม็น ยิ่งเวลาฝนตกมีลมพัดทั้งบ้านต้องกินข้าวโดยดมกลิ่นเหม็นของน้ำเสียตลอด แม่จ้างคนมาจุดทำท่อระบายน้ำเสียออกทางด้านหลังแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล 

     น.ส.ยุพาวรรณ เล่าเพิ่มเติมอีกว่า ตนและแฟนเคยไปร้องเรียนกับทางอบต.ขุนศรี มาแล้วหลายครั้ง ทางปลัดเคยรับปากว่าจะลงพื้นที่มาดูแล แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มาดูเลย พ่อของตนโทรไปร้องกับทาง อบต.ขุนศรี หลายครั้งจนเจ้าหน้าที่คงรำคาญ ล่าสุดตัดสายและบล็อคเบอร์โทรศัพท์ไปแล้ว ต่อมาเมื่อช่วงเดือน ต.ค. 67 จึงได้ทำหนังสือไปร้องกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อย เจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรมก็แจ้งว่ามาแจ้งที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะก็ต้องส่งเรื่องให้กับทางพื้นที่ที่รับผิดชอบซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของอบต.ขุนศรี จนเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 67 มีเจ้าหน้าที่จากอบต.ขุนศรี เข้ามาดูและให้น้ำหมักชีวะภาพเพื่อลดกลิ่นเหม็นมา 2 ขวดเล็ก และผงทรายกำจัดยุงให้เอาไว้โรยตรงที่น้ำเสียท่วมขังจำนวน 3 ซองแค่นั้น และบอกว่าต้องรอให้ถึงหน้าหนาวก่อนถึงจะเข้ามาทำการช่วยเหลือและแก้ไขได้ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่จึงอยากวอนหน่วยงานไหนที่สามารถช่วยครอบครัวตนได้ก็อยากขอความช่วยเหลือเพราะครอบครัวตนทนกับกลิ่นเหม็นมานานกว่า 5 เดือนแล้ว







แสดงความคิดเห็น