โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายบรรจง ขุนเพชร ประธานพิธี นางปิยะนาถ ทูลพิพัฒน์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน
ด้วยองค์การสหประชาชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๑๙๙๙ ประกาศให้
วันที่ ๒๕ พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี เพื่อรำลึกถึกถึงเหตุการณ์สังหารนักเคลื่อนไหวทางการเมืองสตรีชาวโดมินิกัน จำนวน ๓ คน ในคืนวันที่ 25พฤศจิกายน 1961 อันเนื่องมาจากเหตุผลทางการเมือง และนักเรียกร้องสิทธิสตรี ได้
ใช้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์และเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อสตรี
ตลอดมา สำหรับประเทศไทย คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๔๒
เห็นชอบให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็น "เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และ
บุคคลในครอบครัว" ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการความร่วมมือ
กับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ในการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรง
ต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ทั้นส่วนกลางและภูมิภาคต่อเนื่องเป็นประจำทาทุกปี
ซึ่งในปี ๒๕๖๗ ได้จัดขึ้นภายใต้แนวหิต"สร้างสุขปลอดภัย ไร้ควานรุนแรง" (ACT NONN No
end Violence Against Women and Girls)
ปัญหาความรุนแรง ต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว เป็นปัญหาที่ส่งกระกระกระทบ
อสังคมในวงกว้าง ซึ่งในปี ๒๕๖๗ จังหวัดน่าน มีเหตุการณ์ความรุนแรง ทั้งสิ้น
นดับที่ ๘ ของประเทศ ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าวพบว่าความสัมพันธ์ของผู้กระ
ผู้ถูกกระทำความรุนแรงมากที่สุด คือ ความสัมพันธ์ระหว่าง สามีภรรยา จำนวน ๓๘ ราย คื
ละ ๖๒.๒๙ รองลงมาได้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดากับบุตร จำนวน ๑๕
คิดเป็นร้อยละ ๒๔.๕๙
ซึ่งจังหวัดน่าน มีภาคีเครือข่ายร่วมเดินรณรงค์กว่า 500 คน
/////////
ปาริฉัตร์ สองสียนต์/ข่าวน่าน
แสดงความคิดเห็น