วันนี้ 18 พฤศจิกายน 2567 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 ศอ.ปส.(สส.) พล.ต.ต.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกูล รอง ผบช.ภ.7 (ปป.) พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี 


พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี,พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.แสงเพ็ชร หอมสมบัตร รอง.ผกก.สส.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ต.วิโรจน์ ชาวบ้านกร่าง สว.สส.สภ.สังขละบุรี ,พ.ต.ต.ประดิษฐ์ แร่เพชร สว.ธร.ฯ รรท.สวป.สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายกรวดน้ำเกิ๊ก สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13, เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 เจ้าหน้าที่ ทหาร ฉก.ลาดหญ้า เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กก.2 บก.ทท.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดสุนัขทหาร กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จว.กาญจนบุรี 

ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นาย ยาว ไม่มีชื่อสกุล อายุ 47 ปี เลขบัตรประจำตัวคนซึ่งสัญชาติไทย อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จว.กาญจนบุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 84 มัดเศษรวมประมาณ 168, 862 เม็ด) รถยนต์กระบะ ISUZU D-MAX สีเทา หมายเลขทะเบียน บษ 4644 กาญจนบุรี โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 51,490 บาท สมุดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาทองผาภูมิ        

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวว่าเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สังชละบุรี ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดข้ามแดนผ่านบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี โดยใช้ยานพาหนะเป็นรถยนต์กระบะ ISUZU D-MAX สีเทา หมายเลขทะเบียน บษ 4644 กาญจนบุรี จึงได้นำกำลังเฝ้าสังเกตุการณ์ ที่บริเวณจุดตรวจร่วมน้ำเกิ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี 

จนกระทั่งเวลาประมาณ 07.20 น.ทางเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจุดสกัดพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยคันดังกล่าวตรงกับที่สายลับแจ้งไว้ เดินทางออกมาจากด่านเจดีย์สามองค์ มุ่งหน้ามายัง อ.สังขละบุรี จึงได้สงสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอทำการตรวจสอบ พบนายยาว ไม่มีชื่อสกุล เป็นผู้ขับขี่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบพบบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติ                 

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้นรถพบกล่องกระดาษรสดี และกล่องกระดาษฟ้าไทย ซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณด้านหลังกระบะโดยมีผ้าไปปกคลุมอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เปิดกล่องกระดาษรสดีออกดูพบว่ามีห่อพลาสติดใสขนาดใหญ่จำนวน 10 ห่อใหญ่ ภายในห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลมีสัญลักษณ์ตัว A จึงได้แกะออกดูพบของกลางยาบ้าจำนวน 99,852 เม็ด และกล่องกระดาษฟ้าไทย ภายในบรรจุยาบ้าจำนวน 69,010 เม็ด รวมจำนวนประมาณ 168,862 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่าจากการสอบสวนนายยาว ได้ให้การรับสารภาพว่าเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 15.00 น.ได้มีนางน้อยได้มาหาตนที่บ้านและพูดคุยติดต่อว่าจ้างจะให้ตนไปรับของที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ 

ต่อมาวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 06.00 น.นางน้อยได้โทรศัพท์มาหาตนอีกครั้งและบอกให้ค่าจ้างตน 2,000 บาท โดยบอกให้ตนขับรถไปรับของที่บริเวณตลาดสดบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี ตนจึงได้ขับรถออกจากบ้านพักที่หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี เพื่อไปรับของที่นางน้อยได้ติดต่อว่าจ้างไว้ที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ บริเวณตลาดสด

พอตนถึงตลาดสดนางน้อยได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าเดี๋ยวจะมีคนเอาของมอบให้แต่ไม่บอกว่าเป็นใครและสิ่งของในนั้นเป็นอะไร พอเวลาประมาณ 07.00 น.ได้มีผู้ชายเป็นชาวเมียมาร์ อายุประมาณ 30 ปีเศษ ได้ยกกล่องกระดาษรสดี จำนวน 1 ลัง และกล่องกระดาษฟ้าไทย จำนวน 1 ลัง มาส่งไว้ให้ที่บริเวณด้านหลังกระบะรถ จากนั้นตนได้ขึ้นไปขยับกล่องกระดาษดังกล่าว ไปด้านในสุดแล้วได้นำผ้าใบสีดำและแผ่นยางสีดำ ปิดทับกล่องกระดาษไว้ ต่อมาตนได้ขับรถออกมาเพื่อจะไปส่งของที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.สังขละบุรี ที่นางน้อยที่ได้ติดต่อว่าจ้างไว้ไป แต่พอตนมาถึงที่บริเวณจุดตรวจร่วมน้ำเกิ๊ก ได้ถูกเจ้าที่ตำรวจตรวจค้นจับกุมได้เสียก่อน

หลังจากผู้ต้องหารยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ”จำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและกระทบความมั่นคงของรัฐ ”





      

แสดงความคิดเห็น