เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2. , กองบังคับการบก.สอท.4 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท (ตำรวจไซเบอร์) โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท (ตำรวจไซเบอร์) ,พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน,พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.ชินพันธ์ พราหมณ์พันธุ์ รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.สนธยา บัวแพง รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.นรวัตน์ คำภิโล รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.ศุภกร ธัญญกรรม รอง ผบก.สอท.4 ได้สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ชุดปฎิบัติการ โดย พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 , พ.ต.ท.วีระพล กันธวงศ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.4, พ.ต.ท..เอนก ถิ่นนคร สว.กก.2 บก.สอท.4 , ร.ต.อ.จิรัฐฎ์ จันเย็น, ด.ต.พิเชษฐ์ บุญหลง, ด.ต.มาโนช เมธาธนนันท์,ด.ต.ศรัณย์ ชุ่มธิ, ด.ต.จักรกฤษณ์ เจริญศิลป์, ส.ต.ท.วรพัฒน์ นวลเป้า ดำเนินการสืบสวนติดตามคดี
ตามคำสั่งของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) ปฎิบัติการตามยุทธการปราบซิมผี ล่าบัญชีม้า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท. 4. ได้สืบทราบว่ามีกลุ่มบุคคล กลุ่มหนึ่ง กระทำความผิด โดยร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆเพื่อให้มีการซื้อขายให้เข่่า ให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอีเล็กทรอนิกส์ หรือบัญขีเงินอีเล๋กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด โดยภายหลังจากที่ศาลฯ ได้อนุมัตืหมายจับ เจ้าหน้าทีตำรวจไซเบอร์ จึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้ พร้อมของกลาง ประกอบด้วย สมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารต่างๆ 25 บุ๊คแบงค์ รวมทั้งบัตรเอทีเอ็มของธนาคารต่างๆ,ซองบรรจุซิมการ์ด ระบุหมายเลขโทรศัพท์ จำนวน 5 ซอง ,ซิมการ์ดโทรศัพท์ เครือข่ายต่างๆ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ,.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 4 ใบ จากการสอบปากคำบุคคลตามหมายจับ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ได้ให้การยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกันหลอกลวงกลุ่มเยาวชนให้ไปทำการเปิดบัญชีธนาคารโดยมีกลุ่มขบวนการจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเป็นผู้ว่าจ้างให้จัดหาบัญชีธนาคารละ 7,000 บาท โดยจะหลอกลวงเยาวชนไปเปิดบัญชีแล้วจะเอาเงินให้เยาวชนรายละ 3,000 บาท โดยจะเสียค่าเปิดบัญชีและค่าบัตรเอทีเอ็ม ให้ธนาคาร จำนวน 500 บาท จะเหลือให้กลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 3,500 บาท / ราย ที่ผ่านมามีการจัดหาคนไปเปิดบัญชีไม่น้อยกว่า 200 รายและสมุดบัญชีธนาคาร, บัตรเอทีเอ็ม ที่เปิดจะมีคนมารับตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนม่า ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1.บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก จากการตรวจสอบข้อมูลของบัญขีผู้เสียหายที่มาร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าทีตำรวจพบว่าในบัญชีมีเงินหมุนเวียนรวมกันระยะเวลา 10-15 วัน ตั้งแต่เปิดบัญชีจนวันปิดบัญชี จำนวนประมาณ 35 ล้านบาท มีการทำรายการมากกว่า 20,000 กว่ารายการ จะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป
แสดงความคิดเห็น