คณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดพื้นที่ บ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอกรองรับผู้ป่วยจากศูนย์มะเร็งภาคเหนือ อ.สารภี (อยู่ใกล้เวียงกุมกาม) หลังเจอน้ำท่วมหนัก
 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.67 ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็งที่ย้ายมาจากมูลนิธิต่อต้านโรคมะเร็งภาคเหนือ เข้ามาพักในบ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอก โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มช.

 คณะแพทยศาสตร์ มช.ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.เชียงใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ มช. ได้รับการประสานจากมูลนิธิต่อต้านโรคมะเร็งภาคเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ (ใกล้เวียงกุมกาม ที่เกิดน้ำท่วมหนัก) น้ำท่วมสูงอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมะเร็ง จำนวน 20 ราย ออกจากมูลนิธิทางคณะแพทยศาสตร์ มช.จึงได้เปิดพื้นที่ บริเวณบ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอก รองรับผู้ป่วยทั้ง 20 ราย โดยแบ่งพื้นที่ให้ผู้ป่วยได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยอาการหนัก เข้าพักชั้น 1 ,ผู้ป่วยหญิง พักชั้น 2 และผู้ป่วยชาย พักชั้น 3 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยจนกว่าสถานการณ์น้ำจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยไม่คิดค่าบริการ
  นายอัครวัฒน์ สาบสันเทียะ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่มูลนิธิต่อต้านมะเร็งภาคเหนือ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากอ.แม่สอด จ.ตาก เข้ารับการรักษามะเร็ง ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2567 และนอนพักรักษาตัวอยู่ที่มูลนิธิ ช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ของวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา น้ำได้เข้าท่วมภายในห้องพักผู้ป่วย สูงระดับเอว ทางมูลนิธิจึงได้แจ้งผู้ป่วยทั้งหมดเพื่อทำการเคลื่อนย้ายมายังที่ปลอดภัยโดยเร็ว จากนั้นมีรถจากคณะแพทยศาสตร์เข้าไปรับผู้ป่วยเพื่อย้ายมาที่บ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอกแห่งนี้


ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวเพิ่มเติมว่า การช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้ที่เดือดร้อน ถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจของคณะแพทยศาสตร์ มช. ซึ่งบ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอก รพ.มหาราชนครเชียงใหม่แห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและญาติ ดังนั้นเมื่อมีสถานการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น และต้องการความช่วยเหลือ คณะแพทยศาสตร์ มช. พร้อมที่จะเป็นที่พึ่งให้กับผู้ที่เดือดร้อน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ในการเป็น " โรงเรียนแพทย์ในดวงใจ เพื่อยกระดับสุขภาวะของมนุษยชาติอย่างยั่งยืน"





แสดงความคิดเห็น