"ครูประพิศ"ประสานด่วนหน่วยงานท้องถิ่น เร่งแก้ปัญหาชาวบ้านถูกน้ำท่วมซ้ำซาก

     ที่ชุมชนพันดุง บ้านหัวสระ หมู่ 5 ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ชาวบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน เดือดร้อนจากน้ำท่วมขังถนนหนทางและท่วมไปถึงบ้านเรือนที่อยู่อาศัยซ้ำซาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีน้ำท่วมขังสูง 30-40 เซนติเมตร เดินทางเข้าออกยากลำบาก เนื่องจากสภาพพื้นที่กลายเป็นแอ่งกะทะ ไม่มีทางระบายน้ำ สาเหตุมาจากมีนายทุนเอกชนถมที่ดินผืนใหญ่กว่า 40 ไร่ สูง 1-2 เมตร ปิดกั้นทางน้ำธรรมชาติ ทำให้เวลาฝนตกหนัก น้ำไม่มีที่ระบาย จึงท่วมขังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง เดือดร้อนซ้ำซาก ยังไม่มีแนวทางแก้ไข เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยหาทางแก้ปัญหา

      ต่อมา อบต.จอหอ และเทศบาลตำบลโคกสูง 2 หน่วยงานที่ร่วมกันดูแลรับผิดชอบพื้นที่ที่เกิดปัญหา ได้ประสานสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 5 นครราชสีมา นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ ใช้เวลา 2 วัน ระดับน้ำท่วมลดลงจนแห้งสนิท สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ แต่ชาวบ้านคงยังกังวล หากเกิดฝนตกลงมาอีก ก็จะเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เพราะยังไม่มีช่องทางระบายน้ำออก ต้องใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำออกเพียงวิธีเดียว จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เครื่องนี้ออกจากพื้นที่แต่อย่างใด ยังคงติดตั้งไว้ต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อรองรับสถานการณ์หากเกิดฝนตกหนัก จนกว่าจะมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างอื่น และชาวบ้านยังคงไม่สบายใจ เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้ปัญหาในระยะยาว

     นายประพิศ นวมโคกสูง หรือ "ครูประพิศ" คณะทำงานพรรคพลังประชารัฐ จ.นครราชสีมา ผู้ประสานงานหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่หารือร่วมกับชาวบ้านที่เดือดร้อน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้ง อบต.จอหอ และเทศบาลตำบลโคกสูง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาระยะยาว เบื้องต้นมีข้อสรุปร่วมกันว่า อบต.จอหอ จะมีการวางท่อระบายน้ำจากพื้นที่น้ำท่วมในหมู่บ้านไปตามแนวถนนสาธารณะทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ไปเชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ตามแนวถนนสุรนารายณ์ ถนนหลักที่เป็นปากประตูทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 200 เมตร เพื่อเป็นช่องทางระบายน้ำหลักของหมู่บ้าน

   รวมถึงมีการปรับปรุงซ่อมแซมท่อระบายน้ำภายในหมู่บ้านที่อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ รองรับการแก้ปัญหาถาวร ส่วนพื้นที่เอกชนที่มีการปรับถมดิน ได้ประสานกับเจ้าของพื้นที่เร่งทำท่อระบายน้ำผ่านแนวที่ดิน เพื่อเปิดเส้นทางระบายน้ำไปยังพื้นที่อื่นข้างเคียง เป็นการร่วมไม้ร่วมมือกันแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในระยะยาวต่อไป.