ที่บริเวณหน้าอาคารศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระธรรมวชิรสิทธาจารย์ เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีนางระวีวรรณ หงษ์ขจร โพธิ์ทอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานจัดงาน “วันรพี” ปี 2567 มีนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เข้าร่วมพิธีสงฆ์ และวางพวงมาลาสักการะหน้าพระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระเกียรติคุณของพระองค์ท่านในฐานะที่ทรงเป็นผู้พัฒนากิจการด้านนิติศาสตร์และกระบวนการยุติธรรมของไทยให้มีความเจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศจนถึงปัจจุบัน
วันที่ 7 สิงหาคมของทุกปีเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญคุณประโยชน์เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาตินานับประการ พระเกียรติคุณและพระปรีชาญาณของพระองค์เป็นที่ประจักษ์แพร่หลาย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระปรมินมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงศึกษาภาษาไทย และภาษาอังกฤษจนรอบรู้แตกฉาน ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ จากนั้นทรงเสด็จไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาในกรุงลอนดอนแล้วทรงเข้าศึกษาวิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สำเร็จปริญญาตรี (เกียรตินิยม) ขณะพระชนมายุเพียง 20 พรรษา เป็นที่พอพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงยิ่งนัก ถึงกับทรงเรียกว่า “เฉลียวฉลาดรพี” เคยทรงดำรงตำแหน่งสภานายกในกองข้าหลวงพิเศษ
ทรงจัดตั้งศาลมณฑลและศาลหัวเมืองในท้องที่ต่างๆ ทรงตัดสินคดีด้วยพระองค์เอง จัดการแก้ไขธรรมเนียมศาลยุติธรรมหัวเมืองทั้งปวง และสะสางคดีความทั่วราชอาณาจักร ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมประธานกรรมการตรวจชำระกฎหมาย พระองค์ทรงเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยทรงสอนกฎหมายด้วยพระองค์เอง ผู้สำเร็จได้รับเลือกเป็นเนติบัณฑิตประถมกำเนิดแห่งคำว่า “เนติบัณฑิตไทย” ในปัจจุบัน ทรงแก้ไขระบบงานยุติธรรมให้เป็นแบบสากล ทรงพระราชนิพนธ์ตำรากฎหมายต่างๆ ไว้เป็นอันมากอันเป็นรากฐานสำคัญในการศึกษาวิชานิติศาสตร์.



กูลเสวก เสวกวรรณกร
 

แสดงความคิดเห็น