ที่ลานหน้าหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พระพิศาลสิทธิคุณ หรือท่านเจ้าคุณไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพิธีพุทธาภิเษก “หลวงปู่ทวดพิมพ์ใหญ่หลังเตารีด เนื้อโลหะ” ครบรอบ 2 ทศวรรษ หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล จัดสร้างโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อนำไปแจกให้แก่ผู้ที่มาร่วมงานห่มผ้าหลวงพ่อปู่ทวด ครั้งที่ 11 โดยมี พระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ จาก จ.เพชรบุรี 7 วัด จำนวน 9 รูป สวดพระมหาสมัยสูตรตามตำหรับโบราณ และพระสงฆ์จากวัดห้วยมงคล จำนวน 9 รูป สวดพระคาถาหลวงปูทวดพระคาถาเงินล้าน พร้อมด้วย นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง (ททท.) ประธานฝ่ายฆราวาส นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผอ.ททท. สำนักงานประจวบฯ น.ส.วรกานต์ ถาวร รอง ผอ.ททท.สำนักงานประจวบฯ ร่วมในพิธี

สำหรับพระ “หลวงปู่ทวดหลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ย้อนยุค” ได้รับความเมตตาจากพระเกจิชื่อดังจากวัดต่างๆ ทั่วภูมิภาคภาคกลาง จำนวน 16 รูป ส่งอธิษฐานจิต ลงแผ่นจานอักขระอักขระ มอบให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำไปหล่อสร้างพระรุ่นนี้ และปลุกเสกเพิ่มความขลังในวันนี้

นายอัครวิชย์ เทพาสิต กล่าวว่า ททท. ภูมิภาคภาคกลาง จัดกิจกรรม “ห่มผ้าหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ครั้งที่ 11” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 ระหว่างวันที่ 10-11 ส.ค.67 โดยวันที่ 10 ส.ค. เวลา 17.30 น.จะมีพิธีสวดตัดเคราะห์ต่อชะตา บริเวณลานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วันที่ 11 ส.ค. เวลา 17.30 น. คณะสงฆ์อำเภอหัวหินเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 จากนั้นร่วมกิจกรรมถือผ้าสีเหลืองส้มความกว้าง 3 เมตร ความยาว 399 เมตร เดินเวียนทักษิณาขึ้นห่มหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ห่มผ้าหลวงปู่ทวดในช่วงกลางคืนท่ามกลางประดับตกแต่งด้วยระบบแสงสีเสียงเพิ่มความเข้มขลังตระการตา และที่พิเศษสำหรับผู้ที่ร่วมพิธีรับแจก “หลวงปู่ทวดพิมพ์ใหญ่หลังเตารีด” กลับไปบูชาเป็นสิริมงคลคนละ 1 องค์ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมกิจกรรม “ห่มผ้าหลวงปู่ทวด ครั้งที่ 11” ที่วัดห้วยมงคล ได้ตามวันดังกล่าว.



 กูลเสวก เสวกวรรณกร

แสดงความคิดเห็น