วันที่ 14 สิงหาคม 2567 เวลา 10.30 ที่สถานีตำรวจภูธรแก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 ,นายนิยม ช่างพินิจ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวมหาดไทย
,พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์
ผบก.ภ.จ.สระบุรี,นายวิชัย บุญมี รองผู้ว่าฯ จ.สระบุรี และพ.ต.อ.ประกร นามศรี ผกก.สภ.แก่งคอย ร่วมแถลงการจับแก็งค์ลำเลียงยาเสพติด จำนวน 4คน พร้อมยาบ้า
1,720,0000 เม็ด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มวัยรุ่น หนองยาว สระบุรี ได้ร่วมกันลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากโดยจะใช้รถยนต์บรรทุกตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด และจะใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีเทา เป็นยานพาหนะในการขับนำสำรวจเส้นทาง จึงเฝ้าติดตามความเครื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว
ต่อมาในวันที 11 ส.ค.67 สืบสวนทราบว่า กลุ่มทีมลำเลียงยาเสพติด วัยรุ่น หนองยาว สระบุรี กำลังลำเลียงยาเสพติดโดยใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเพื่อคอยจับกุม จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบรถที่ใช้ในการลำเลียงยาเสพติดทั้ง 2 คัน ขับผ่านมาถึงบริเวณหน้าที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงทำการสกัดรถที่ใช้ลำเลียงยาเสพติดให้หยุดแล้วแสดงตนเข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบแล้วแสดงคนเข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบ
ยาบ้า ประมาณ 1,720,000 เม็ด ทุกซ่อนอยู่ในตู้บรรทุกของรถยนต์ที่ทำการตรวจค้น
และสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันกรเท้าผิดให้จำนวน 4 ราย ดังนี้1. นายณัฐชัยหรือเก่ง คนขับรถลำเลียงยาเสพติด 2. นายไพฑูรย์หรือเบนซ์ ผู้โดยสารในรถลำเลียงยาเทพลัด โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี
3.นายประพัฒน์หรือเมล คนขับรถนำสำรวจเส้นทางและ4.นายยุรนันท์หรือต้อม ผู้โดยสารในรถนำสำรวจเส้นทางถูกจับกุมได้ที่หน้าร้านเซเว่น อีเเฟเว่น หลัง โรงพยาบาล
เกษมราษฎร์ จ.สระบุรี
พร้อมกันนี้สามารถยึดรถที่ใช้ในการกระทำผิดได้ 2 คัน ดังนี้
1.รถยนต์ยนต์บรรทุกตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียนจังหวัดปทุมรานี จำนวน ๑ คัน (ใช้ลำเลียงยาเสพติด)
2.รถยนต์เก๋งยี่ห้อ MAZDA สีเทา ทะเบียนจังหวัดสระบุรี จำนวน ๑ คัน (ใช้ขับนำสำรวจเส้นทาง)
ทท การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติด ของกลางหากถูกน้าออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ากว่า 15,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผล ถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำ
มาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป.
แสดงความคิดเห็น