.เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 3 ก.ค.67 นายเอกวิทย์ แสงเงิน เจ้าพนักงานสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย จนท.สคบ. กว่า 20 นาย ได้เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใน อ.เมืองระยอง เพื่อตรวจสอบสินค้าอันตราย ตามคำสั่งของคณะกรรมการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค จำนวน 4 ร้าน ในพื้นที่เขต อ.เมือง จ.ระยอง ตรวจยึดได้ของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย ตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 39 หัว บุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้ง 262 ชิ้น น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า 145 ขวด น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัวทิ้ง 1,225 หัว คอยย์บุหรี่ไฟฟ้า 163 ชิ้น หัวบุหรี่ไฟฟ้า 105 ชิ้น ก้อนถ่าน 4 ก้อน และสมุดควบคุมรายการขาย 1 เล่ม

   นำของกลางส่ง ร.ต.ท.หญิง ภรภัทร สาครเสถียร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีข้อหา 'เป็นสินค้าอันตรายที่มีคำสั่งห้ามขายหรือห้ามให้บริการ ตามคำสั่งของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือห้ามให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นความผิดตามมาตรา 29/9 วรรคสองต้องระวางโทษตามมาตรา 56/4 ประกอบมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ส่วนเจ้าของร้านทั้ง 4 ร้าน พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดามกฎหมายต่อไป
  อย่างไรก็ตาม ในทางการสืบสวนของจนท.สคบ. สืบทราบว่าร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบเปิดขายกันอย่างโจ่งครึ่มให้กับกลุ่มวัยรุ่นหรือนักศึกษาที่นำไปสูบในที่สาธารณะอย่างเปิดเผยหรือตามร้านอาหาร ผับ บาร์ ซึ่งร้านที่ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้านั้น ล้วนแต่มีผู้มีอิทธิพลสีกากียศใหญ่ เป็นหุ้นส่วน จึงลักลอบขายกันอย่างเปิดเผยและผุ้ที่ซื้อไปสามารถพกพาไปดูดในที่สาธารณะได้โดยไม่มี จนท.เข้ามาจับกุมแต่อย่างใด จึงฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจนท.ฝ่ายปกครองจังหวัดระยอง จนท.ฝ่ายปกครองอำเภอ จนท.ตร.และจนท.สรรพสามิตร ให้ปฏิบัติกวดขันจับกุมตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษาไปมากกว่านี้


มาโนช สนองสุข สมนึกกรมภักดิ์ ศูนย์ข่าวนิวส์ 24 จ.ระยอง ภาพ/ข่าว

นิราช ทิพย์ศรี รายงาน

 

แสดงความคิดเห็น