เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 11.15 น. พ.ต.อ.ชาญยุทธ ไชยมะโน ผกก.สภ.ภูเพียง , พ.ต.ท.บุญมาก กันบุญ สวป.สภ.ภูเพียง จ.น่าน ,ร.ต.ท.สุดเขต กติยา รอง สวป.ฯ , ว่าที่ พ.ต.ต.ดนุทัช กิติยศ สว.สส.สภ.ภูเพียงฯ ,ร.ต.อ.บุญส่ง สุยาว รอง สว.สส.ฯ พร้อมด้วย จนท.ตร.ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายพงษ์พัฒน์ ศรีพล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 347 หมู่ที่ 1 ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา
จับกุมได้ที่ บริเวณสวนยางพารา หมู่ที่ 12 ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน หลังจากได้รับแจ้งเบาะแสมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้อื่นและมีอาวุธปืน (ไม่ทราบชนิด) ชื่อนายพงษ์พัฒน์ ศรีผล อายุประมาณ 35 ปี เป็นชาว อ.เทพา จ.สงขลา มาเช่าบ้านอยู่หลังบ้านผู้ใหญ่บ้านน้ำใส ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน เมื่อได้รับแจ้งแล้ว จึงทำการตรวจสอบประวัติอาชญกรรมนายพงษพัฒน์ ศรีผล จากรายชื่อทราบว่านายพงษ์พัฒน์ ศรีพล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 347 หมู่ที่ 1 ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
โดยผิดกฎหมาย,มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพกพาโดยไม่ได้รับอนุญาต” (ตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557) และ “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทาง ซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าหรือช่องทางซึ่งมีผู้เป็นใจเปิดไว้ให้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” (ตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ลงวันที่ 9 เมษายน 2557) หลังจากได้ตรวจสอบประวัติอาชญา กรรมของนายพงษ์พัฒน์ฯ เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นได้ทำการออกสืบสวนติดตามและทราบว่านายพงษ์พัฒน์ฯ เช่าพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 147 บ้านน้ำใส หมู่ที่ 5 ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน และไปรับจ้างกรีดยางพารา ในเขตบ้านเหด หมู่ที่ 12 ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน ปรากฏว่าไม่พบตัวนายพงษ์พัฒน์ฯ แต่อย่างใด จึงพากันไปตรวจสอบริเวณสวนยางพารา หมู่ที่ 12 ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน พบนายพงษ์พัฒน์ฯ กำลังจะกรีดยางพาราอยู่ เจ้าพนักงานชุดจับกุมทำการตรวจสอบบุคคล จากการตรวจสอบพบว่านายพงษ์พัฒน์ฯ เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวีซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย,มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพกพาโดยไม่ได้รับอนุญาต” (ตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557) และ “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทาง ซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าหรือช่องทางซึ่งมีผู้เป็นใจ เปิดไว้ให้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” (ตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ลงวันที่ 9 เมษายน 2557) จึงได้แสดงหมายจับดังกล่าวให้นายพงษ์พัฒน์ฯ ดูและอ่านข้อความในหมายจับให้นายพงษ์พัฒน์ฯ ฟังจนเป็นที่เข้าใจ ซึ่งนายพงษ์พัฒน์ฯ รับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลที่ปรากฎชื่อตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมทั้ง 2 คดีนี้มาก่อนเจ้าพนักงาน ชุดจับกุมฯ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายพงษ์พัฒน์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาทั้ง 2 หมายจับ จึงได้จับกุมตัวนายพงษ์พัฒน์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูเพียง จ.น่าน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
แสดงความคิดเห็น