น.ส.ปิกน้อย  โชติยา  อายุ 58 ปี  และนายกวาง   บานกลีบ  อายุ 67 ปี ชาวอำเภอโนนดินแดง  จังหวัดบุรีรัมย์  แม่และพ่อเลี้ยงของ น.ส.ฤทัยวรรณ   กมลเลิศ  อายุ 29 ปี ได้เดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์     กรณีที่ น.ส.ฤทัยวรรณ  ถูกกระสุนปืนปริศนาเจาะเข้าบริเวณราวนม  ระหว่างไปหาหอยกับสามีและเพื่อนรวม 3 คน บริเวณทุ่งนาบ้านโนนสง่า ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย  ก่อนจะเสียชีวิตขณะนำส่ง รพ. เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 5 ก.ย.2566   


กระทั่งต่อมาเมื่อประมาณวันที่ 23 ก.ย.66 ตำรวจ สภ.ละหานทราย แจ้งว่าสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว  เป็นชายอายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายร้านขายเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย โดยผู้ก่อเหตุให้การกับตำรวจว่าซ้อมยิงปืนแล้วกระสุนเกิดพลาดไปโดนผู้เสียชีวิต   แต่จนถึงขณะเหตุการณ์ผ่านไปเกือบ 1 ปีแล้ว  ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่เคยเห็นกระทั่งหน้าของผู้ก่อเหตุเลย  ไม่เคยมีคำขอโทษจากตัวผู้ก่อเหตุหรือครอบครัวเขาเลย   แม้แต่เงินเยียวยาหรือช่วยเหลืองานศพก็ไม่เคยได้รับแม้แต่บาทเดียว    ซ้ำครอบครัวยังต้องเป็นหนี้ที่ยืมมาจัดงานศพลูกสาวอีกกว่า 6 หมื่นบาท  ขณะที่ผู้ก่อเหตุยังใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น   จึงเกรงว่าลูกสาวจะตายฟรี

การที่ตนเองสูญเสียลูกสาวก็ทำให้คนเป็นแม่ทุกข์ทรมานใจอยู่แล้ว   ยังต้องแบกรับภาระหนี้สินที่ยืมมาจัดงานศพลูกสาวอีกกว่า 6 หมื่นบาท ยังไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้   แต่ตัวคนก่อเหตุและทางครอบครัวกลับไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย  แถมยังใช้ชีวิตได้ปกติ   จึงอยากฝากถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวที่ตายไปแล้ว และครอบครัวที่ต้องสูญเสียลูกด้วย    หากคู่กรณีไม่มีสำนึกที่จะเยียวยาอะไรเลย  ก็อยากให้ลงโทษตามกฎหมายถึงที่สุด  อย่าให้ลูกต้องตายฟรี      

ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมก็รับเรื่องไว้  พร้อมอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการเรื่องคดี และเงินเยียวยาจากระบวนการยุติธรรมให้แม่ของผู้เสียชีวิตได้รับทราบในเบื้องต้นด้วย   

ทั้งนี้ทีมข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง พ.ต.อ มนัสวุฒิ  บรรยงค์  ผู้กำกับการ สภ.ละหานทราย ก็ให้ข้อมูลว่า จากการสอบถามพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีทราบว่า

หลังจากมีการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว  ก็มีการสอบปากคำซึ่งผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าคืนวันเกิดเหตุมีการซ้อมยิงปืนจริง  และหลังจากทราบว่ากระสุนไปโดนคนเสียชีวิต  ก็หลบหนีไปต่างจังหวัดก่อนจะถูกจับกุม  เบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำการโดยประมาท (ยิงปืน) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในเมือง หรือหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันสมควร” และมีการสรุปสำนวนพร้อมนำตัวผู้ต้องหา  ส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอนแล้ว  ซึ่งผู้ต้องหามีการยื่นประกันตัวชั้นศาลและต่อสู้คดีตามกระบวนการ    ขณะนี้อยู่ระหว่างพนักงานอัยการตรวจสำนวนเพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง  ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน   แต่หากทางครอบครัวไม่สบายใจก็สามารถสอบถามทางพนักงานสอบสวน หรือติดต่อทางพนักงานอัยการเพื่อสอบถามรายข้อมูลได้


          สุรชัย    พิรักษา / บุรีรัมย์

แสดงความคิดเห็น