เช้าวันนี้ (20 ก.ค. 67) เวลา 07.00 น. ที่ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ถวายแด่พระสงฆ์ จำนวน 73 รูป เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประจำปี 2567 โดยมี พระเทพสิงหวราจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี และส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนา ถวายเป็นพุทธบูชา
          โดยวันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกๆ ปี เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน ถือเป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 4 ประการ คือ เป็นวันแรกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา เป็นวันแรกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” เป็นวันแรกที่พระสงฆ์สาวกเกิดขึ้นในโลก คือ ฤาษีโกณฑัญญะ ได้บวชเป็นภิกษุด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา และเป็นวันแรกที่มีพระรัตนตรัยครบบริบูรณ์
          สำหรับวันเข้าพรรษานั้น ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง ซึ่งคำว่า "เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในช่วงฤดูฝนนี้
        ทั้งนี้ในช่วงเย็น จะมีการจัดกิจกรรมเวียนเทียน ณ วัดต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง, วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร, วัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง, วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร และวัดอื่นๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมเวียนเทียน เพื่อระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย และเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว


 ส่งศักดิ์ พรมเอี่ยม ชัยณรงค์ อนันทปัญญสุทธิ์ ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน

แสดงความคิดเห็น