ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดสุพรรณบุรี นายกองโทเชษฐา ขาวประเสริฐ  ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบขายยาเสพติดในพื้นที่ตำบลวังยาง อำเภอศรีประจันต์ และมีวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติดกันที่บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำท่าจีนและเชิงสะพานวัดพระรูป จึงสั่งการให้นายหมวดโท ธรรศ  ศรีดุษฎี  ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรีนำกำลัง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรีออกตรวจสอบ
กระทั่ง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายหมวดโท ธรรศ  ศรีดุษฎี  ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี ก็ได้นำกำลัง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรีออกตั้งจุดตรวจที่บริเวณสี่แยกบ้านบันไดทอง  ถนนเลียบคลองชลประทานโพธิ์พระยา- วังยาง ตำบลวังยาง ขณะเจ้าหน้าที่กำลังเรียกตรวจรถยนต์จักรยานยนต์ที่ผ่านไปมา ระหว่างนั้นมีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโกสีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจากในหมู่บ้าน เมื่อถึงทางแยกเห็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกำลังตรวจรถ และเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณไฟให้จอดเพื่อขอตรวจค้น แต่รถกระบะคันดังกล่าวนอกจากไม่ยอมจอดแล้วยังเร่งเครื่องเลี้ยวขวาหนีเกือบชนเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ได้ขับรถยนต์ไล่ติดตามแต่คนขับวีก็เร่งเคฟรื่องหนีแบบไม่คิดชีวิต มุ่งหน้าเข้าศรีประจันต์ สุดท้ายหลบหนีไปได้


หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังตั้งจุดตรวจเพื่อตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายทุกชนิดเพื่อป้องกันการลักลอบขายยาเสพติดและป้องกันปัญหาอาชญากรรม ระหว่างนั้นมีชายอายุประมาณ 45-50 ปีขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างผ่านมาเจ้าหน้าที่จึงเรียกขอตรวจค้นชายคนดังกล่าวบอกว่าเพิ่งกลับจากดื่มสุราที่ร้านค้าและกำลังจะกลับบ้าน ขณะเจ้าหน้าที่กำลังสอบถามชายขับจักรยานยนต์พ่วงข้างอยู่นั้นก็มีชายวัยเดียวกันขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังพอมาถึงชายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงก็ทักทาย และทั้งคู่เล่าว่าไปดื่มที่ร้านค้าใกล้กันและกำลังจะกลับบ้าน หลังจากตรวจค้นอย่างละเอียดแล้วไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงให้ชายทั้ง2คนลงไปแช่น้ำในคลองประมาณ 5 นาทีเพื่อให้สร่างเมาและจะได้มีสติในการขับรถเพื่อความปลอดภัยก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน โดยชายที่ขับรถซาเล้ง ได้เปลือยกายล่อนจ้อนลงไปเล่นน้ำอย่างอารมณ์ดี ท่ามกลางความตกใจของเจ้าหน้าที่ ต่างพากันส่งเสียงหัวเราะ และชายทั้ง2คนบอกว่าขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ไม่จับส่งดำเนินคดีข้อหาดื่มสุราขณะขับรถ โดยการให้ลงไปเล่นน้ำเพื่อเรียกสติ ก็ขอฝากถึงคนที่ขับรถแล้วดื่มสุราว่าเวลาดื่มอย่าขับเพราะอาจจะไม่โชคดีเหมือนพวกตน แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่เห็นว่าชายทั้ง 2คนเป็นคนในหมู่บ้านและจะถึงบ้านแล้วจึงปล่อยตัวกลับ

จากนั้นกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำท่าจีนเทศบาลเมืองสุพรรณบุรีตามที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการมั่วสุมเสพยาและลักลอบขายยาเสพติด เมื่อไปถึงพบมีทั้งวัยรุ่นชายหญิงจำนวนหนึ่งนั่งจับกลุ่มกันอยู่ บางส่วนก็นั่งซุ่มแอบอยู่ข้างสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนวัดพระรูป บางคนทำทีมาตกปลา แต่พอเห็นเจ้าหน้าที่ต่างพากันวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 5 คนเป็นชาย 3 หญิง 1 และสาวสอง 1 ตรวจสอบบริเวณข้างสะพานพบอุกรณ์การเสพยาเสพติด และใต้สะพานมีที่นอน ของกลุ่มผู้ที่มาเสพยาเสพติด สอบถามทั้งหมดให้การรับสารภาพว่ามามั่วสุมเสพยาเสพติดกันจริง โดยจะเสพยาบ้ากันคนละ 2 -5 ตัวโดยเฉพาะสาวสอง หรือน้องสปาย บอกว่าตนมีอาชีพรับจ้างเป็นหมอนวดมีรายวันละประมาณ 800 บาท พอได้เงินก็จะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ ราคาเม็ดละ 7-8 บาทเสพวันละ 2 เม็ดบ้าง 5 เม็ดบ้าง 10 กว่าเม็ดบ้าง บางวันเกือบ 20 เม็ดก็มี สาเหตุที่เสพเพราะตนมีปัญหาถูกกดดันทางสังคม และปัญหาส่วนตัวพอเสพยาบ้าแล้วจะทำให้หายเครียดเพราะสมองจะมึนไม่ต้องรับรู้อะไร ตนเสพยาตนก็เคารพกฎหมายนะ นายสปายบอก 



ทางด้านนายแกะ อายุ 33 ปีอ้างว่าตนอาชีพเก็บของเก่าขายมีลูกน้อยวัย 3 ขวบเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเพราะจมน้ำ ร่างกายยังไม่แข็งแรงเกือบเป็นอัมพาต เมียก็ทิ้งไปตนต้องรับภาระ วันนี้ก็มาหาปลาเพื่อจะเอาไปขายหาเงินซื้อยาบ้ามาเสพวันนี้ก็เสพไปแล้ว 1 เม็ดส่วนที่ตนวิ่งหนีเจ้าหน้าที่เพราะไม่อยากถูกจับเพราะเป็นห่วงลูกลูกยังเล็ก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งหมดทำประวัติไว้เพื่อนำตัวเข้ารับการบำบัดตามขั้นตอนเพราะผู้เสพคือผู้ป่วยต้องรักษา แต่ก่อนที่จะให้ผู้เสพทั้ง5คนกลับบ้านเจ้าหน้าที่ได้ให้ทั้งหมดช่วยกันแบกไม้ไผ่แห้งยาวประมาณ 6 เมตรลงไปแช่น้ำที่บริเวณท่าน้ำเพื่อถอนฤทธิ์ยาเสพติด โดยให้ดำน้ำ 1 ครั้ง แต่สาวสองน้องสปาย รู้สึกดำน้ำแล้วสบายจึงไม่อยากโผล่ขึ้นจากน้ำจนผู้ช่วยป้องกันจังหวัดต้องให้เพื่อนสะกิด ให้ขึ้นจากน้ำ เมื่อขึ้นมาบนบกแล้วได้ให้ผู้เสพทั้ง 4 คนยกเว้นที่เป็นผู้หญิง แบกไม้ไผ่กระโดดสก๊อตจั๊ม 50 ครั้งและทำการอบรม ก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน
นายหมวดโท ธรรศ  ศรีดุษฎี  ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี บอกว่าตนใช้ระบบเบาไปหาหนักโดยครั้งแรกที่ตรวจเจอก็จะภาคทัณฑ์ ว่ากล่าวตักเตือนถ้าเจอครั้งที่2ก็ต้องบังคับใช้กฎหมายการที่ให้ผูกระทำผิดลงไปแช่น้ำก็เพื่อต้องการใช้ความเย็นของน้ำเรียกสติอย่างเช่นคนที่เมาแล้วขับหากปล่อยกลับที่ที่ยังเมาอาจเกิดอันตรายได้ และหากบังคับใช้กฎหมายก็จะทำให้เดือดร้อนซึ่งเขาเหล่านี้ก็อาชีพหาเช้ากินค่ำ  จึงเลือกใช้วิธีเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ดังกล่าว

ภาพข่าว : ภัทรพล พรมพัก ทีมข่าวสุพรรณบุรี/รายงาน

แสดงความคิดเห็น