และคุณศรีปัญญา และ คุณนิภา สองสามีภรรยาก็ไม่ได้คิดว่าจะเจอกับเรื่องเช่นนี้
ขึ้น ตั่งแต่เปิดร้านมากว่า 10 ปี ก็ค้าขายหัวหอม หัวกระเทียม เช่นนี้ เช้าเปิดร้าน เย็นปิดร้าน แล้วมาวันหนึ่งมีเพื่อนบ้านมาบอกว่า มีชายปิดใบหน้า สวมแม็ส มาจอดรถแล้วลงไปยกกระสอบหัวหอม หัวกระเทียม ไป เท่านั้นแหละ 2 สามีภรรยา ก็ได้เปิดกล้องวงจรปิดดู เห็นจะๆ ชัดเจน จริงๆ ว่ามีรถจักรยานยนต์ มาจอดแล้วยกกระสอบหัวหอม – กระเทียม ไปจริงๆ จึงได้นำภาพวงจรปิดไปยัง สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อแจ้งความกับ ร้อยตำรวจโท ธนวัฒน์ นครพิน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 67 ครั้งที่สอง วันที่ 5 มิ.ย. 67 และครั้งสุดท้ายวันที่ 20 มิ.ย. 67
โดยนายศรีปัญญา นราทอง แจ้งกับสื่อว่า อดีตตนเองก็เป็นสื่อมวลชนอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ แต่ได้มาทำการค้าที่กาญจนบุรี ก็ไปๆมาๆ ไม่คิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ และคิดว่าคนที่ขโมยหัวหอม – กระเทียมไป ไม่น่าจะเอาไปประกอบอาหาร แต่น่าจะเอาไปขายเพื่อแรกอย่างอื่นมากกว่า เพราะกระสอบหนึ่งน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัม ค่าเสียหายไม่มากมายนัก แต่เราประกอบการค้ากำไรไม่ใช่มากขนาดนั้น เมื่อมาเจอแบบนี้กำไรมันก็หายไปมันเสียความรู้สึก แจ้งความแต่อะไรก็ไม่คืบ ยังไร้วี่แวว จึงต้องมาร้องสื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงกระตุ้นอีกทางหนึ่ง.................................เสียงนายศรีปัญญา กล่าวทิ้งท้าย..ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
แสดงความคิดเห็น