ซูเราะฮฺ ฟาฏิร 35 : 12

และทะเลทั้งสองนั้นไม่เหมือนกัน อันนี้จืดสนิทอร่อยน่าดื่ม  เครื่องดื่มของมันคล่องคอ และอันนี้เค็มจัด และจากแต่ละทุกแห่งนั้น  พวกเจ้าจะได้กินเนื้ออันอ่อนนุ่ม และพวกเจ้าเอาออกมาจาก

(ทะเลทั้งสอง) เครื่องประดับเพื่อใช้มันเป็นอาภรณ์ และเจ้าเห็นเรือแล่นฝ่าผิวน้ำไป 

เพื่อพวกเจ้าจะได้แสวงหาความโปรดปรานของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบคุณ

มหาสมุทรนั้นประกอบไปด้วยกระแสน้ำที่เค็มจัด กระแสน้ำที่เป็นน้ำจืด หรือมีเกลือปนอยู่ในปริมาณน้อยไหลเวียนอยู่ใกล้ผิวมหาสมุทร และที่ไหลเวียนในความลึกของมหาสมุทร กระแสน้ำทั้งสองนั้นจะไม่ผสมเข้าด้วยกัน แต่เมื่อพบกันก็จะเป็นแหล่งที่มีปลาชุกชุมที่สุด รวมถึงไข่มุก และสัตว์ทะเลประเภทอื่นๆด้วย ทั้งนี้ เพราะกระแสน้ำอุ่นนำพาอาหารมาอย่างมากมาย สาหร่ายทะเล และพืชจะถูกกระแสน้ำพัดพาไปตามที่ต่างๆ ก่อให้เกิดห่วงโซ่อาหารอันสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้นการเดินเรือก็จำเป็นต้องใช้กระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นซึ่งสามารถเพิ่มความเร็วของเรือในขณะที่เคลื่อนที่ไปทาง

เดียวกันกับกระแสน้ำนั้น ในบางที่กระแสน้ำก็ก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินเรือได้ เช่น กระแสน้ำทั่วโลกที่พัดพาภูเขาน้ำแข็งออกมาด้วย หรือเมื่อกระแสน้ำเย็นและกระแสน้ำอุ่นมาพบกันก็จะก่อตัวเป็นคลื่น และกระแสน้ำวนได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็จะก่อให้เกิดหมอกซึ่งเป็นอันตรายต่อการเดินเรือได้ ทั้งนี้ อัลลอฮฺ سُبْحَانَهُ وَتَعَالَىٰ ทรงประทานปัจจัยเหล่านี้ลงมาเพื่อมนุษย์จะได้ขอบคุณพระองค์ น้ำเค็มมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำจืด กระแสน้ำเย็นมีความหนาแน่นมากกว่ากระแสน้ำอุ่น บริเวณทะเลทางเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ผิวของน้ำทะเลกำลังก่อตัวเป็นน้ำแข็ง ส่วนที่เป็นน้ำแข็งจะมีรสจืด และเกลือจะถูกดันจมลง เนื่องจากมวลน้ำมีน้ำหนักมากขึ้น และจมลงไปก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เมื่อมันไหลผ่านมหาสมุทรอินเดียอุณหภูมิจะสูงขึ้น และลอยตัวสูงขึ้นทางมหาสมุทรแปซิฟิก ไหลกลับผ่านมาทางมหาสมุทรอินเดีย แล้วไหลย้อนมาทางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ มันจึงเป็นเหมือนปั๊มที่ทำให้น้ำอุ่นและเย็นไหลเวียนอยู่อย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากกระแสน้ำเย็นไม่จมลงเพราะน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ทำให้ความเค็มของน้ำทะเลจืดจางลง การไหลเวียนของกระแสน้ำก็จะอ่อนตัวลง อันจะตามมาซึ่งกระแสน้ำเย็นและกระแสน้ำอุ่นในส่วนอื่นของมหาสมุทรเริ่มเปลี่ยนทิศทาง และทำให้เกิดสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลัน อัลลอฮฺ سُبْحَانَهُ وَتَعَالَىٰ ทรงสร้างกระแสน้ำเย็นและกระแสน้ำอุ่น และทรงบอกเรื่องราวของมันให้เป็นอุทาหรณ์ของมนุษย์เพื่อจะได้คิด เรียนรู้ เพื่อจะได้ขอบคุณพระองค์ที่ทรงประทานความโปรดปรานของพระองค์มายังพวกเรา เมื่อเร็วๆนี้เกิดฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในหลายๆประเทศ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นปริมาณเกลือในทะเลก็สูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้น้ำขาดออกซิเจน ปลา ปู กุ้ง และสัตว์น้ำทั้งหมดเสียชีวิต เราคงได้เห็นภาพปลาซาร์ดีนจำนวนมากลอยตายเนื่องจากขาดอากาศที่ชายฝั่งในต่างประเทศ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกระแสน้ำทั้งสอง ที่เกิดจากสภาวะโลกร้อน

ซูเราะฮฺ อัรอหฺมาน 55 : 19-22

19 : พระองค์ทรงทำให้น่านน้ำทั้งสอง (ทะเลและแม่น้ำ) ไหลมาบรรจบกับ

20 : ระหว่างมันทั้งสองมีที่กั้นกีดขวาง มันจะไม่ล้ำเขตต่อกัน

21 : ดังนั้น ด้วยบุญคุณอันใดเล่าแห่งพระเจ้าของเจ้าทั้งสองที่เจ้าทั้งสองปฏิเสธ

22 : มีไข่มุก และหินปะการังออกมาจากมันทั้งสอง

 อัลลอฮฺ سُبْحَانَهُ وَتَعَالَىٰ ทรงทำให้กระแสน้ำทะเลทั้งสองไหลมาบรรจบกัน แต่มิให้ล้ำเข้าไปซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดความสมดุล มิฉะนั้นกระแสน้ำทั้งสองอาจจะหยุดไหลและทำให้เปลี่ยนทิศทางได้ นับเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวง และเมื่อกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นบรรจบกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความอุดมสมบูรณ์ของห่วงโซ่อาหาร และออกซิเจน รวมถึงแพลงตอน จะเป็นตัวดึงดูด ปลาและสัตว์น้ำ จำนวนมหาศาลมา เช่น โลมา ปลาวาฬ หรือแม้กระทั่งนกทะเล รวมถึงพืชทะเลบางชนิดที่ลอยไปตามกระแสน้ำยาวเป็นระยะทางกว่า 1,600 กิโลเมตร ทำให้มันสามารถแพร่พันธ์ไปค่อนโลก และด้วยความเมตตาของอัลลอฮฺ سُبْحَانَهُ وَتَعَالَىٰ มนุษย์สามารถปลูกพืชพรรณธัญญาหาร ทำประมง และเดินเรือได้ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะกระแสน้ำทะเลทั้งสองที่อัลลอฮฺ سُبْحَانَهُ وَتَعَالَىٰ ทรงประทานให้ และหากพระองค์ทรงประสงค์ให้กระแสน้ำเหล่านี้เปลี่ยนทิศทาง เราก็คงจะต้องพบกับสิ่งที่ไม่คาดคิดอย่างเป็นแน่ในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งหมดนี้คือสัญญาณหนึ่งจากความรู้อันอมตะของอัลลอฮฺ

 

แสดงความคิดเห็น