ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 น.ของวันที่ 23 เม.ย.67 นายไพโรจน์ เขียวแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7(บ้องตี้) อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบขบวนการลักลอบทำไม้บนเขากลางป่าท้องที่บ้านทุ่งฉาง หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค หลังรับแจ้งจึงรายงานให้นายประทีป เหิมพยัคฆ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ทราบ จากนั้นเร่งประสาน เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7(บ้องตี้)เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาญจนบุรี รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปทส.เจ้าหน้าที่ ตร.ชป.ศปทส.ภาค 7 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1404 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค โดยนายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบตามพิกัดที่ได้รับแจ้ง แต่เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นป่าและภูเขาที่สูงชัน เจ้าหน้าที่จึงต้องออกปฏิบัติหน้าที่ด้วยการเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาด้วยความระมัดระวัง
จนกระทั่งเวลา 17.30 น.เจ้าหน้าที่พบร่อยรอยของรถยนต์สภาพใหม่ขับขึ้นไปตามแนวเขาที่อยู่ท้ายเหมืองแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยตามไป ระหว่างเส้นทางเจ้าหน้าที่พบต้นไม้ขนาดเล็กสภาพใหม่ถูกดันล้มคาตอ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้เสียงเครื่องยนต์คล้ายเสียงของเครื่องสูบน้ำดังมาจากบนยอดเขา เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ จนกระทั่งไปถึงพบชาย 3 คน กำลังร่วมกันใช้เลื่อนโซ่ยนต์ดัดแปลงที่ใช้เครื่องปั่นไฟเป็นเครื่องต้นกำลังแปรรูปไม้อยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุด แต่เมื่อชายทั้ง 3 คนเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้พยายามวิ่งหลบหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการขู่แต่ชายทั้ง 3 คนก็ไม่สนใจ ระหว่างเจ้าหน้าที่พยายามวิ่งติดตามก็มาถูกสุนัขที่ชายทั้ง 3 คนนำมาด้วยวิ่งไล่กัด จึงเป็นสาเหตุทำให้ชายทั้ง 3 คนสามารถวิ่งหลบหนีการจับกุมไปได้ จากการตรวจสอบโดยรอบ พบ 1.ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 21 แผ่น ปริมาตร 3.886 ลบ.ม. 2.รถจี๊ปป่า 6 ล้อ ติดตั้งรอกพร้อมสลิง จำนวน 1 คัน 3.เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ขนาด 7 แรงม้า จำนวน 1 เครื่อง 4.เลื่อยโซ่ยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเลื่อยหินเจียร์ไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง 5.เลื่อยโซ่ยนต์พร้อมบาร์ ยาว 22 นิ้ว 6.ตู้เชื่อมไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง พร้อมสายไฟยาว 10 เมตร 7.ขวานเหล็ก จำนวน 1 ด้าม 8.อาวุธปืนลูกซองยาว ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก 9.กระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด 10.อาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก 11.อาวุธปืนยาวไม่ทราบยี่ห้อ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และ 12.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง โดยจุดเกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ "ป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย"
แต่เนื่องจากเวลาดังกล่าวค่ำมืดแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายของกลางที่เป็นไม้ขนาดใหญ่รวมทั้งรถจิ๊ปและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำมากลงมาได้ เพราะเป็นเส้นทางที่ลาดชันสองทางเดินเป็นป่าและหุบเหวลึก เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังเฝ้าของกลางเอาไว้ตลอดทั้งคืน จนกระทั่งเวลา 10.00 น.ของวันที่ 24 เม.ย.นายไพโรจน์ เขียวแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7(บ้องตี้) พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ผลปรากฏพบตอไม้ประดูความโตขนาด 200 เซนติเมตร และ 300 เซนติเมตร สภาพใหม่อยู่กลางหุบเขาลึกลงไปประมาณ 100 เมตร โดยมีร่องรอยการชักลากต้นไม้ขึ้นมาแปรรูปอยู่บนยอดเขาบริเวณที่ตรวจพบของกลางข้างต้น โดยเบื้องต้นไม้ของกลางที่ตรวจยึดเอาไว้ได้มีมูลค่าประมาณ 272,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการดวงตราตีประทับเอาไว้หมดแล้ว
ล่าสุดวันนี้ 25 เม.ย.67 คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาเอาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7(บ้องตี้)เป็นที่เรียบร้อย จากนั้นจึงจดทำบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนในการติดตามตัวผู้กระทำผิดกฎหมายมาดำเนินคดีต่อไป
ภาพข่าว : ปรีชา ไหลวารินทร์ ทีมข่าวกาญจนบุรี/รายงาน
แสดงความคิดเห็น