เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จากเหตุการณ์ หลวงพี่หัวร้อน ใส่หมัดกันนัวโดยไม่แคร์สายตาญาติโยม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านหลังหนึ่ง ที่เจ้าภาพได้นิมนต์พระมาทำพิธีมงคลที่บ้าน ซึ่งในระหว่างที่พระฉันท์ข้าวอยู่นั้น  โดยพระที่กำลังนั่งฉันข้าว ได้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และกระโดดเข้าต่อยพระที่ยืนอยู่อย่างชุลมุน  เกิดขึ้นที่ จ.นครศรีธรรมราช
พระพยอมกัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วกล่าวว่า พระนี้ก็แปลก ที่วัดก็ตี ขนาดโยมนิมนต์ไปบ้านก็ไปตี เขานิมนต์ไปเพื่อเสริมศิริมงคลแก่บ้านและครอบครัว ก็ไปตีกันเองพระชุดที่ไปด้วยก็หน้าจะห้ามกันได้ แต่ไม่ห้ามปรามกันแบบนี้เขาเรียกว่าพากันขาดศัทธาญาติโยม บวชไม่สืบทอดพระศาสนา บวชบั่นทอนให้ศาสนาอายุสั้น อย่างนี้คือการบวชเอาเวรเอากรรมเอาบาปติดหัวติดตัวไปทุกภพทุกชาติ เพราะฉะนั้นนักบวชทั้งหลาย พระสงฆ์ทั้งหลาย ขอให้ท่านตั้งใจว่าที่ท่านได้ฉันท์ ได้ใช้ เพราะพระพุทธเจ้า ท่านไม่รักษาหน้าพระพุทธเจ้า ไม่รักษาหน้าวัดของตัวเอง ไม่รักษาความเป็นศาสนิกที่ดี ของศาสนา ไปทำตัวแบบนี้ให้ญาติโยมเห็นแทนที่ญาติโยมที่ได้นิมนต์ไปจะได้รู้สึกเสริมศิริมงคล ได้สบายใจ กลับต้องมานั่งเศร้าใจกับพฤติกรรมของพระเหล่านี้ คงจะต้องขึ้นแบ็คลิสว่าพระวัดไหนทำปบบนี้อย่านิมนต์กันเลย ควรจะอบรมกันใหม่ก่อนจะไป รับบุญรับทานกับชาวบ้าน ขอให้อธิฐานเอาไง้ว่าจะไปให้เขาเกิดศัทธา  อย่าไปให้เขาเสื่อมศัทธา และตัวท่านเองก็จะเสื่อมจนจับสึก
ถ้าคดีแบบนี้ไม่จับศึกถือว่าไม่สร้างความเข็ดหลาบจำ ไม่เกรงกลัวต่อความเสื่อมของศาสนา ไม่ควรเอาไว้ แสดงว่าความรับรู้ว่าตัวเองเป็นพระไม่เหลือ ต่อหน้าแขก ต่อหน้าคนที่มาทำบุญพระยังทำแบบนี้ได้ พระพุทธเจ้าจะเรียกคนพวกนี้ว่า ทุมมังกุ แปลว่าพวกหน้าด้าน พวกเก้อยาก อยากให้โยมขึ้นแบ็คลิสไว้เลยว่าพระวัดไหนปล่อยไก่แบบนี้ ปล่อยลายนรกแบบนี้ ไม่ควรนิมนต์มาอีก ควรแบ็ตลิสไว้สัก 3 ปี เพื่อให้ไปอบรมกันใหม่ ข่มใจกันก็ไม่เป็น คงเป็นเพราะไม่เจริญเมตรา ไม่แพ่เมตรา เบียดเบียนกัน นี้ขนาดเป็นพระยังเบียดเบียนกันทำร้ายกัน เป็นยักบวชต้องไม่ทำร้าย


 

แสดงความคิดเห็น