โดยช่วงหนึ่งนายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนนทบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากเหตุการณ์การจับกุมบ่อนการพนันขนาดใหญ่เมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค. 67 ทำให้สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดนนทบุรี เกิดความขุ่นมัวในใจเป็นอย่างมาก ในการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่ส่วนงานราชการจังหวัด ที่นำโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี (นายสุรี ทองแย้ม) ที่มีการสังให้ปลัดจังหวัดนนทบุรี หิวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เข้าไปสังเกตการทำงานออกมา โดยใช้การกระทำที่รุนแรง ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทางผวจ.นนทบุรีไม่ได้สั่งการให้มีการกระทำดังกล่าวอย่างที่ทางสส.คนดังกล่าวพูดแต่อย่างใด ซึ่งหากพี่น้องประชาชนที่ได้รับฟังเรื่องดังกล่าวก็จะทำให้เข้าใจผิดทางผวจ.นนทบุรีได้ ทำให้ผวจ.นนทบุรีได้รับความเสียหายทั้งชื่อเสียง เกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
เป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดอาญาฐาน “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี จึงได้มอบหมายให้ นายเสฎฐวุฒิ คีรีพอน ตำแหน่ง นิติกรชำนาญ เป็นตัวแทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับ สส.คนดังกล่าวล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 มีนาคม 2567 นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นนทบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกล และนาย เกียรติคุณ ต้นยาง ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 7 นนทบุรี หรือทนายโป้ง ได้ร่วมกันแถลงข่าว กรณีนายเสฎฐวุฒิ คีรีพอน ตำแหน่ง นิติกรชำนาญการ ปกครองจังหวัดนนทบุรี ได้รับมอบอำนาจจากนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท. คชสิทธิ์ โคตะโน รอง สว.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับนายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นนทบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกลความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สส.พรรคก้าวไกล เขต 8 จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ที่มีกรมการปกครองพิเศษนำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้อธิบดีกรมการปกครองพิเศษและเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเข้าไปบุกจับบ่อนพนันที่หมู่บ้านพระปิ่น 3 อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และสส.ของพรรคก้าวไกล คือนายคุณากร มั่นนทีรัย สส.พรรคก้าวไกล เขต 6 จังหวัดนนทบุรี ได้เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ เดินดูจุดต่างๆที่อยู่ในบริเวณบ่อนพนัน และได้ไปสังเกตการณ์ต่อที่สภ.บางใหญ่ และที่ศาลาประชาคมอำเภอบางใหญ่ซึ่งมีกรณีเจ้าหน้าที่ของภาครัฐได้กระทำการสั่งให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากพื้นที่และใช้ความรุนแรง มีการหิ้วปีกผลักดันสส.เขต 6 ให้ออกไปจากพื้นที่ อันนี้คือสิ่งที่ตนได้ทราบมาจากตัวสส.เองในวันนั้น ตนจึงต้องแสดงจุดยืนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและได้มีการไปแถลงข่าวที่รัฐสภา ร่วมกับสส.ทั้ง 8 ท่าน ของพรรคก้าวไกล เพื่อทำการสอบถามไปยังส่วนงานราชการจังหวัดว่าการปฏิบัติการลักษณะนี้มีคำสั่งหรือไม่ ตนเพียงแค่ตั้งข้อสังเกตเพราะข้าราชการระดับปลัดกระทำการหิ้วสส.ได้ หมายความว่าต้องมีความกล้าหาญมาก ไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาก็ได้ แบบนั้นหรือ ตนจึงได้ตั้งคำถามเพื่อรอคำชี้แจงจากทางจังหวัด แต่ไม่ได้รับการชี้แจงใดๆ เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 22.00 น. ตนได้ทราบข่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้ให้นิติกรจังหวัดยื่นฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณากับตน
ซึ่งในเนื้อหาของข่าวมีข้อความว่าตนหมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้ว่าราชการจังหวัด ตนอยากขอชี้แจงว่าหากผู้ว่าราชการจังหวัดมีการชี้แจงข้อเท็จจริงตั้งแต่วันที่เกิดเหตุหรือวันรุ่งขึ้น หรือมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ตนในฐานะสส.ก็ยินดีที่จะไปแถลงข่าวขอโทษที่เข้าใจผิด แต่กลับแจ้งความดำเนินคดีกับตนในข้อหาหมิ่นประมาทฯ โดยที่ยังไม่มีการสืบทราบหาข้อเท็จจริงแล้วมาชี้แจงต่อพี่น้องประชาชน ผู้ว่าฯพูดว่าท่านมีเกียรติและศักดิ์ศรี ตนและสส.อีก 500 กว่าคนในรัฐสภา ก็มีเกียรติและศักดิ์ศรีเหมือนกับท่าน การที่ท่านไม่ชี้แจงและมาฟ้องหมิ่นประมาทกับตน ตนไม่รู้จุดว่าต้องการจะสื่อสารอะไรนายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สส.พรรคก้าวไกล เขต 8 จังหวัดนนทบุรี กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นตนยังไม่ได้รับเอกสารใดๆ แต่ทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีที่ตนคนเดียว ส่วนของสส.เขต 6 อีกท่าน ได้มีการพูดคุยกันไปแล้ว เมื่อวานตนได้มีการเจอกับผู้ว่าฯ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไร สิ่งที่ตนกระทำคือเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกต ว่าการกระทำลักษณะนี้เป็นการกระทำที่มาจากคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่ ถ้าไม่ใช่สามารถที่จะปฏิเสธหรือแถลงชี้แจงออกมา สิ่งที่ตนพูดไม่มีคำหยาบคายใดๆ ตนยังให้เกียรติผู้ว่าราชการจังหวัดเหมือนเดิม ตนไม่ใช่สส.ที่ก้าวร้าว หากมีการพูดคุยและทราบว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ได้กระทำตนก็ยินดีที่จะขอโทษ และจะตั้งคำถามต่อไปว่า
ท่านได้ดำเนินการใดๆเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงและตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงแล้วหรือยัง ซึ่งประชาชนทั่วประเทศก็ต้องการรับรู้เหมือนกัน ต่อจากนี้มันมีกระบวนการที่ทางสภาผู้แทนราษฎรได้ดำเนินการต่อหลังจากเหตุการณ์บุกจับบ่อนพนันที่พระปิ่น 3 ได้มีการยื่นเรื่องไป 2 คณะกรรมาธิการ คือ คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด ซึ่งวันนั้นได้มีท่านรองนายกอนุทินและอธิบดีฯอยู่ด้วย ได้มีการแจ้งว่ามีการยึดอายัด 3 บัญชี ในวันที่ 27 มี.ค. นี้ ทางป.ป.ง. อธิบดีกรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดี จะต้องมาชี้แจงว่ามันมีอยู่จริงม้้ย หรือเป็นแค่คำแถลงข่าว และคณะปกครองจะมีการยื่นเรื่องที่มีการกระทบกระทั่งกันกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะสอบหาข้อเท็จจริงว่าคุณได้กระทำแบบนี้โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หลังจากนี้ได้ข้อสรุปยังไงจะมีการชี้แจงต่อไป โดยเบื้องต้นควรมีการเรียกเจ้าหน้าที่มาชี้แจงว่าการยื่นอายัดบัญชีมีการกระทำจริงหรือไม่หากมีการตรวจสอบจริงจะให้ทางป.ป.ง.มีมติ สืบทราบดูว่าเส้นทางการเงินมันไปถึงไหน มาจากใคร ส่งให้ใครบ้าง มันจะสามารถตรวจสอบรู้ได้หมด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการดูแลในส่วนนี้ทั้งหมด
นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นทางเรายังไม่ได้รับทราบว่ามีการแจ้งความอะไรอย่างไรบ้าง เพิ่งจะทราบข้อมูลจากสื่อทั้งหมด ตามที่สส.นนท์พูดเมื่อสักครู่นี้ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ตนมีประชุมสภา เพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 เราได้ให้เกียรติกับทางปปส. ที่ทราบว่าท่านผู้ว่าฯจะมาร่วมแถลงข่าวด้วย เป็นโครงการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย พวกเราสส.ทั้ง 8 คน ไปทั้งหมด 6 คน มีสส.นนท์ นั่งติดอยู่กับผู้ว่าฯ ซึ่งผู้ว่าฯก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรตามที่เราได้ไปแถลงข่าวที่รัฐสภาเกี่ยวกับประเด็นของท่าน หลังจากประชุมสภาเสร็จ ช่วงเย็นจึงได้เพิ่งทราบข่าวว่าผู้ว่าฯได้มีการไปแจ้งความที่สภ.รัตนาธิเบศร์ ว่าสส.นนท์ได้ไปดูหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยข้อความที่ตามสื่อต่างๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นวันจันทร์นี้ ตนจะพาสส.นนท์เดินทางไปที่สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อไปชี้แจงข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่ท่านผู้ว่าฯแจ้งความดำเนินคดีมามีการผิดพลาดคลาดเคลื่อนอย่างไรหรือเปล่า ฝากเป็นข้อสังเกตด้วยว่าเรื่องแค่นี้มันเป็นคดีที่ยอมความได้ แล้ววันที่แจ้งความคือช่วงเย็นวันศุกร์โดยที่ช่วงเช้ายังนั่งอยู่ด้วยกัน ทำไมไม่มีการพูดคุยเจรจากัน หรือท่านเห็นว่าใกล้ปิดสมัยประชุม วันที่ 9 เม.ย. นี้ มันจะทำให้เอกสิทธิ์ความคุ้มครองตามกฎหมายรัฐธรรมนูญต่อสส.หมดไป ซึ่งหากอยู่ในสมัยประชุมจะไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีหรือออกหมายเรียกอะไรกับสส.ได้เพราะมีเอกสิทธิ์และความคุ้มครองตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 125 ตนเพียงแค่ตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยเท่านั้น หรือว่าเห็นพวกตนเป็นสส.ฝ่ายค้าน จึงทำวิธีนี้เพื่อที่จะปิดปากเราหรือเปล่า หรือจะทำอะไรถึงเลือกแจ้งความดำเนินคดีกับเรา ถ้าท่านคิดแบบนี้ตนคิดว่าท่านอาจจะใช้ช่องว่างของกฎหมาย แต่ไม่เป็นไรหลังจากนี้พวกตนไปหาข้อมูลข้อเท็จจริงให้กับพนักงานสอบสวน แล้วตนจะบอกกับสส.ทุกคนให้รีบไปที่สภาผู้แทนราษฎรและขอหนังสือรับรองรับเงินเดือน รับรองตำแหน่งติดตัวไว้ เพราะเราไม่รู้เลยว่าหมดช่วงสมัยประชุมจะถูกแจ้งความดำเนินคดีอะไรหรือเปล่า อย่างน้อยเราจะได้ใช้ตำแหน่งของเราประกันตัวเองเพราะกฎหมายคุ้มครองพวกเราแค่สมัยประชุมเท่านั้น ต้องฝากเพื่อนๆสส.ด้วย ตนไม่ได้แบ่งชนชั้นคนเราเท่ากันไม่ว่าจะเป็นสส.หรือคนธรรมดา แต่เราเป็นประชาชนคนธรรมดาที่ได้รับเลือกตั้งมา การกระทำเช่นนี้มันก็ไม่ต่างจากประชาชนคนธรรมดาที่ถูกกระทำ แต่ถ้าในประเด็นของสังคมอาจจะมองได้ว่าขนาดพวกตนเป็นถึงสส.ยังถูกกระทำแบบนี้ หากเป็นพี่น้องประชาชนคนตาดำๆจะถูกกระทำอย่างไร ฝากไว้ว่าข้าราชการมียศฐาบรรดาศักดิ์ และมีตำแหน่ง มีหน้าที่การงาน มีอำนาจและหน้าที่ แต่อย่าลืมว่าเมื่อคุณอายุ 60 ปีแล้ว ตรงนั้นก็จะหมดไปเป็นเพียงแค่หัวโขน พวกตนเป็นสส.และเป็นคนที่ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจเลือกตั้งพวกตนเข้ามา เราจะทำหน้าที่ของพวกเราให้ดีที่สุด
แสดงความคิดเห็น