วันที่ 21 มีนาคม 2567 จังหวัดชุมพร โดยชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดชุมพร และผู้แทน ปปส.ภาค 8  ลงพื้นที่ตรวจสอบการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษา ณ โรงเรียนสวีวิทยา ตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร พบมีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า  ซึ่งเปิดเป็นซุ้มขายชาไข่มุก บริเวณหน้าโรงเรียน ภายในร้านมีการแอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ และกัญชาแห้ง  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวี ดำเนินคดีตามกฎหมา
นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยนายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร, พล.ต.ต.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร, และนายวิทยา เขียวรอด ปลัดจังหวัดชุมพร ดำเนินการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพลให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายของรัฐบาล ในการจัดระเบียบสังคม ป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ทั้งในด้านยาเสพติด ค้ามนุษย์ การครอบครองและพกพาอาวุธปืน การพนัน การดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพล สถานบริการและสถานบันเทิง และดำเนินการตามนโยบายด้านยาเสพติดของรัฐบาล ซึ่งกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ภายใต้กรอบแนวคิด “เปิดปฏิบัติการตัดวงจรยาเสพติดอย่างเข้มข้นและเด็ดขาดทั้งแผ่นดิน” และ “เปิดปฏิบัติการเชิงรุก ปลุกพลังหยุดยั้งยาเสพติด” และตามมาตรการเร่งด่วน (Quick Win) 3 เดือน (ก.พ.-เม.ย.67) ของ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไท
นายสุทธิภัทร วัฒนพงศ์ไพบูลย์ ป้องกันจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า จังหวัดชุมพร โดยชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดชุมพร และผู้แทน ปปส.ภาค 8  ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีข้อร้องเรียนหลังจากที่ได้รับแจ้งจากพี่น้องประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร ว่ามี การลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษา ณ โรงเรียนสวีวิทยา ตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร จากการลงพื้นที่พบมีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จึงได้แสดงตนจับกุมผู้ต้องหา คือ นายภูริพัฒน์ อายุ 26 ปี อยู่ที่ ตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ซึ่งได้เปิดซุ้มขายชาไข่มุกไม่มีเลขที่ บริเวณหน้าโรงเรียนสวีวิทยา ภายในร้านมีการแอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ และน้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังพบกัญชาแห้ง แบ่งบรรจุในถุงพลาสติกใสเพื่อจำหน่ายในราคาถุงละ 50 บาท และ 100 บาท  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา นายภูริพัฒน์ฯ พร้อมของกลาง ได้แก่ บุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง ชนิด 5,000 พัปป์ 6,000 พัปป์ และ 9,000 พัปป์  จำนวน 100 ชิ้น,  เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 3 ชิ้น, คอยส์ที่เป็นอุปกรณ์เสริมบุหรี่ไฟฟ้า บรรจุในกล่องขนาด 5 ชิ้น 3 ชิ้น 2 ชิ้น และอยู่ในกล่องใส จำนวน 42 กล่อง และเศษคอย จำนวน 34 ชิ้น, หัว Pod น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดซอง จำนวน 30 ซอง และบรรจุในกล่องสีต่าง จำนวน 347 กล่อง, น้ำยาชนิดเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 27 ขวด, กัญชาแห้ง แบ่งบรรจุในถุงพลาสติกใสเพื่อจำหน่ายในราคาถุงละ 50 บาท และ 100 บาท รวมจำนวน 21 ถุง, และกัญชาแห้ง บรรจุในถุงพลาสติกใส จำนวน 1 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 850 กรัม
ด้านนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้สอบถามผู้ต้องหาในเบื้องต้นนั้น ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่สร้างการรับรู้ ให้กับพี่น้องประชาชน ในการป้องกันปรามปรามการกระทำที่มีลักษณะที่เป็นการมอมเมาเยาวชน รวมทั้ง ให้เจ้าหน้าที่ ได้ประชาสัมพันธ์กลไกการแจ้งเรื่องราวต่างๆ หรือเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด การหลบหนีเข้าเมือง ทางช่องทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ทางสายด่วน 1567
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ทำบันทึกจับกุม กลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครอง จังหวัดชุมพร  ซึ่งแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน  ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560, ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค,  และการจำหน่ายสมุนไพรควบคุม (กัญชา) เพื่อการค้าโดยไม่ได้อนุญาต แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542, โดยชุดจับกุมได้ ปฏิบัติตาม พรบ.ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



 

แสดงความคิดเห็น