เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายนัทธพงศ์ เหล่าพานิช อายุ 26 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว (ผู้เสียหาย) ว่าถูกชาย 1 ราย อาการคล้ายคนเมายา ได้เข้ามาอาละวาดก่อเหตุขว้างปาข้าวของ และเอาก้อนอิฐปากระจกรถยนต์ 2 คัน ได้แก่ 1.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีตี้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 2 กม 930 กทม. และรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีแดง หมายเลขทะเบียน ฐท 1040 กทม. ได้รับความเสียหาย ซึ่งที่ผ่านมาชายคนดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหายหลายครั้ง แจ้งความไปแล้วตำรวจนิ่งเฉย ไม่สามารถจับตัวได้ ทั้งที่มีข้อมูลหลักฐานทุกอย่าง รวมถึงบัตรประชาชนของผู้ก่อเหตุ
  ภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 13 มี.ค. 67 เวลาประมาณ 02.00 น. จับภาพชายอายุประมาณ 40-50 ปี สวมเสื้อยืด ใส่กางเกงขาสั้น เดินถือก้อนอิฐมาบริเวณที่จอดรถหน้าบ้านของผู้เสียหาย ก่อนจะปาก้อนอิฐใส่กระจกหน้ารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีตี้ สีบรอนซ์เงิน ประมาณ 3-4 ครั้ง จนกระจกหน้ารถแตก ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมจับภาพคนร้ายเดินต่อมาที่บริเวณท้ายรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีแดง พร้อมกับปาก้อนอิฐที่กระจกหลังรถได้รับความเสียหาย ที่เกิดเหตุบริเวณหมู่บ้านสหกรณ์เคหสถาน 3 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แจ้งความไว้ที่สภ.ปากเกร็ด

 นายนัทธพงศ์ กล่าวว่า เหตุเกิดคืนวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. คู่กรณีเดินเข้ามาซื้อของที่ร้าน มีลักษณะมึนเมา และเอะอะโวยวาย ตนจึงไม่ขายให้ เขาจึงเข้ามาหาเรื่องที่ร้าน ขว้างปาข้าวของและกระถางต้นไม้ ตนจึงโทรแจ้งสายตรวจให้มาระงับเหตุ แต่ก่อนสายตรวจจะมาถึงคู่กรณีก็ได้หลบหนีไปแล้ว ตนรู้ว่าคู่กรณีทำงานรับจ้างทั่วๆไปแถวนี้ แต่ไม่ได้รู้จักส่วนตัว ก่อนหน้านี้คู่กรณีเคยก่อเหตุเผาหญ้าในสวนบ้านตนยามวิกาล ซึ่งแจ้งตำรวจไปตั้งแต่ต้นปี ตนไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวกับคู่กรณี แต่เวลาเขาเมาก็จะชอบหาเรื่องคนไปทั่ว เวลาคู่กรณีมาซื้อของจะมีอาการเมามาตลอด ซึ่งไม่รู้ว่าเมายาหรือไม่ ซื้อของก็จะชอบติดเงินไว้ทำให้ตนไม่ค่อยอยากขายให้ คืนนั้นเขาน่าจะโกรธที่ตนไม่ขายของให้ และแจ้งสายตรวจมาตอนที่เอะอะโวยวาย


หลังตำรวจกลับไปคู่กรณีจึงย้อนมาเอาก้อนอิฐขว้างปากระจกรถยนต์ของตนทั้ง 2 คัน แต่มันดึกมากแล้วและตนกลัวไม่ปลอดภัยจึงไม่ได้ออกมาจากบ้าน ซึ่งได้ไปแจ้งความช่วงบ่ายของวันที่ 13 มี.ค. แต่ตำรวจก็รับแจ้งความไว้เท่านั้น บอกให้รอ 1-2 วันถึงจะมาดูที่เกิดเหตุ ตนก็งงว่าทำไมถึงต้องรอ ทำไมไม่มาดูที่เกิดเหตุทั้งที่มีหลักฐานอยู่ ตอนนี้รถก็ใช้ไม่ได้เพราะตำรวจไม่มาดูที่เกิดเหตุ ตนกับครอบครัวรู้สึกกลัวว่าคู่กรณีจะกลับมาก่อเหตุซ้ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาคู่กรณีก็เคยปาก้อนหินเข้ามาในบ้านตน ไปแจ้งความตำรวจก็แค่รับเรื่องแต่ไม่เคยจัดการอะไร ตนเจอแบบนี้มาประมาณ 1 ปี จนรอบนี้คือทนไม่ไหวแล้วเพราะว่ารถเพิ่งไปเครมประกันมาหมาดๆ และต้องมาซ่อมรถอีกแล้วทางประกันก็รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้ก่อน เพราะเป็นประกันประเภท 2 ซึ่งต้องมีคู่กรณี ตนอยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้เร็วๆเพราะรู้สึกเป็นภัยสังคม
และตนเดือดร้อนมานานมากแล้ว อยากให้ พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด ลงมาดูที่เกิดเหตุ ส่งสายตรวจมาตรวจตราบ่อยๆเพราะตนก็หวาดระแวงและเกิดความกลัว เนื่องจากที่บ้านมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย หากคู่กรณีมาก่อเหตุซ้ำอาจจะเกิดอันตรายมากกว่านี้ ตนมีทั้งชื่อ-นามสกุลคู่กรณี มีบัตรประชาชน ภาพจากกล้องวงจรปิด ตนมีหลักฐานทุกอย่าง และคู่กรณีก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง อยากให้ติดตามจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้เร็วๆ












 

แสดงความคิดเห็น