จากกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เชิญ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.รวมทั้ง พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เข้าพบ เพื่อให้สนธิกำลังทุกฝ่ายในการป้องกันและปราบปรามการทำผิดกฎหมายทุกชนิดในพื้นที่ ภาค 7 แบบบูรณาการพล.ต.ต. นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี , พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ. สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ก.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม หัวหน้าชุดป้องกันและปราบปราม ภาค 7 หัวหน้าควบคุมด่านความมั่นคงแนวชายแดนกาญจนบุรี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.สุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์, นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอสังขละบุรี นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ได้รับนโยบายข้างต้นมาปฏิบัติอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปชก.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.134 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี ประจำจุดตรวจร่วมปรังเผล หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊กซ์สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 1902 กาญจนบุรี ขับมาจากทางด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้าไปทาง อ.ทองผาภูมิ เมื่อมาถึงด่านตรวจเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น
แต่ปรากฏว่าคนขับไม่ยอมหยุด พร้อมกับเร่งเครื่องหลบหนีไปตามถนนสาย 323 เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจนกระทั่งไปถึงบริเวณก่อนถึงที่พักสายตรวจแยก ทางเข้า ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ ระยะทาง 5-6 กิโลเมตร รถจึงเกิดเสียหลักตกลงไปข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับกุมตัวคนขับเอาไว้ได้ ทราบชื่อคือนายนายแท็ด ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 25 ปี
ตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะพบแรงงานนั่งแออัดมาเต็มคันรถ รวม 20 คน เป็นชายทั้งหมด และนอกจากนี้ยังมีเด็กชาย อายุ 12 ขวบ และเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ นั่งมาด้วย หลังจากจับกุมตัวได้ จากการสอบปากคำทราบว่าแรงงานทั้งหมดกำลังมุ่งหน้าไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย หลังจากยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมคนขับรวมทั้งรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นพาหนะ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาของวันเดียวกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 135 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้ามเมือง เจ้าหน้าที่ ตร.ชุด ศปชก.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ตร.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ กก.ปพ.บก.สส.ภาค 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ทองผาภูมิ สนธิกำลังลาดตระเวนเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด ปฎิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ต่อมาได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายโดยใช้เส้นทางบ้านอู่ล่อง หมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังออกลาดตระเวน จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งวิ่งตามกันมาหลายคัน เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฏว่าคนขับไม่ยอมพร้อมกับเร่งเครื่องหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งไปถึงบริเวณริมสวนยางพาราที่อยู่ริมทางของหมู่บ้าน คนขับรถเห็นท่าจวนตัวจึงจอดทิ้งแล้ววิ่งหลบหนีไปท่ามกลางความมืด
จากการตรวจสอบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊กซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน บฉ 6732 พระนครศรีอยุธยา พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาอยู่ภายใน 5 คน รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊กซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ถบ 9272 กรุงเทพฯ พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งอยู่ภายในเป็นชาย จำนวน 6 คน และรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กย 481 กาญจนบุรี พบแรงงานเป็นหญิงทั้งหมดนั่งแออัดมาเต็มคันรถ จำนวน 11 คน และรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสัน นาวารา สีดำ หมายเลขทะเบียน บล 3336 กาญจนบุรี จำนวน 11 คน รวม 33 คน
โดยแรงงานทั้ง 33 คน ไม่มีเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดให้การผ่านล่ามว่า หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนด้านบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เมื่อข้ามมาฝั่งไทยได้มีนายหน้านำพาเดินลัดเลาะหลบเลี่ยงด่านตรวจจนสำเร็จ จากนั้นมีนายหน้าขับรถมารับเพื่อให้นำพาไปทำงานจังหวัดชั้นในของไทย แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ได้ไม่นานนักก็ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า พบกลุ่มบุคคลเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ในสานยางพาราริมทางท้องที่บ้านอู่ล่อง หมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับกลุ่มแรงงานที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้
หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังเดินทางไปตรวจสอบ ผลปรากฏพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบซ่อนตัวอยู่ใกล้กันรวม 2 จุด เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าปิดล้อมพร้อมส่งสัญญาณเข้าจับกุม โดยสามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมด จำนวน 33 ราย เป็นชาย 22 ราย หญิง 11 ราย จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพข่าว : ปรีชา ไหลวารินทร์ ทีมข่าวกาญจนบุรี/รายงาน
แสดงความคิดเห็น